ครบรอบ 30 ปีวันมาโบ: มาโบเป็นใคร เหตุใดจึงสำคัญต่อออสเตรเลีย

3 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันมาโบ (Mabo day) ซึ่งครบรอบ 30 ปีในปีนี้ (2022) เอ็ดดี มาโบ (Eddie Mabo) เป็นใคร เหตุใดเขาจึงได้รับยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาวพื้นเมืองของออสเตรเลีย

Eddie Koiki Mabo and his legal team Source: National Museum of Australia

กด ▶ เพื่อฟังรายงาน

LISTEN TO

ครบรอบ 30 ปีวันมาโบ: มาโบเป็นใคร เหตุใดจึงสำคัญต่อออสเตรเลีย

SBS Thai

03/06/202208:00

Play

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2022 ครบรอบ 30 ปีนับตั้งแต่มีคำตัดสินครั้งสำคัญของศาลสูงแห่งออสเตรเลียเพื่อล้มล้างหลักคำสอนเรื่อง 'terra nullius' หรือ "ผืนดินที่ไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด" ซึ่งถูกประกาศในช่วงการล่าอาณานิคมของยุโรป

ชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรสได้ยึดครองดินแดน พูดภาษาของตนเอง และมีกฎหมายและประเพณีของตนเองมานานแล้ว ก่อนที่อังกฤษจะมาถึงในปี 1788 และ 'terra nullius' เป็นความพยายามของผู้ล่าอาณานิคมเพื่อให้ความชอบธรรมแก่การยึดครองดินแดนของชนกลุ่มแรกของชาติ

ผู้ที่อยู่ใจกลางของการตัดสินของศาลสูงครั้งนี้ คือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในที่ดินของชนกลุ่มแรกของชาติ ซึ่งเป็นชายชาวเกาะเมอร์ (Mer หรือ Murray) ชื่อนายเอ็ดดี คอยกิ มาโบ (Eddie Koiki Mabo เขามีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1936-1992) ซึ่งเป็นโจทก์ลำดับแรกที่มีชื่อในคดีนี้ และเขาได้รับการยกย่องให้เป็น "บิดาผู้ให้กำเนิดเรื่องกรรมสิทธิเหนือดินแดนของชนพื้นเมือง"

Eddie Mabo and Jack Wailu in 1990 (Supplied via AAP) Source: NATIONAL ARCHIVES OF AUSTRALIA

วันมาโบ (Mabo Day) จะมีขึ้นในแต่ละปีในวันสุดท้ายของสัปดาห์แห่งความสมานฉันท์แห่งชาติ (National Reconciliation Week) และถือเป็นวันแห่งการรำลึกถึงสิ่งที่นายมาโบและโจทก์คนอื่นๆ ได้ทำในคดีอันโด่งดังนี้ ที่ส่งผลให้สามารถพลิกคว่ำแนวคิด 'terra nullius' หรือ "ผืนดินที่ไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ใด" ได้สำเร็จ

หลังจากการพิจารณาคดีของศาลสูง รัฐสภาของออสเตรเลียผ่านพระราชบัญญัติกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนของชาวพื้นเมือง ปี 1993 (Native Title Act 1993) ซึ่งกำหนดกรอบทางกฎหมายสำหรับการอ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั่วทั้งออสเตรเลียโดยชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส

---

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai