พิษโควิดทำออสฯ ขาดดุลงบประมาณเกือบ 2 แสนล้าน

เศรษฐกิจทรุด-ค่าใช้จ่ายภาครัฐพุ่ง รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียเผยพิษโควิดทำรัฐขาดดุลงบประมาณปีการเงินนี้เกือบ 2 แสนล้าน รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

Treasurer Josh Frydenberg addresses the media during a federal budget update.

Treasurer Josh Frydenberg addresses the media during a federal budget update. Source: AAP

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียได้เผชิญกับภาวะขาดดุลงบประมาณครั้งร้ายแรงที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่​ 2 ขณะที่สถานการณ์ไวรัสโคโรนายังสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจประเทศอย่างต่อเนื่อง

นายฟรายเดนเบิร์ก ได้แถลงความคืบหน้าด้านระบบเศรษฐกิจในรัฐบาลสหพันธรัฐ ในวันนี้  (23 ก.ค.) นอกจากนี้ยังได้เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มสูงถึงร้อยละ 9 ในเดือนธันวาคมนี้

เขากล่าวว่า รัฐบาลสหพันธรัฐได้บันทึกการขาดดุลงบประมาณเป็นมูลค่า $85,800 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2019-20 และ $184,500 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2020-21 จากการใช้จ่ายภาครัฐที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

“ตัวเลขที่เลวร้ายจากวิกฤตไวรัสโคโรนาเหล่านี้ คือความเป็นจริงที่เลวร้ายที่เรากำลังเผชิญ” นายฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังในรัฐบาลสหพันธรัฐกล่าว

“ผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนา ได้นำไปสู่การลดลงของเงินภาษีอย่างมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายภาครัฐที่สูงขึ้น”

โดยหนี้สินสุทธิของรัฐบาล ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ราว $488,200 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 24.6 ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในปีหน้าอยู่ที่ราว $677,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าระบบเศรษฐกิจในประเทศถึง 3 เท่า

ขณะที่นโยบายสนับสนุนด้านการเงิน ได้ทำให้ผลผลิตมวลรวมในประเทศนั้นเพิ่มขึ้นเป็น $289,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 14.6

ส่วนในระดับเศรษฐกิจโลก มีการสนับสนุนทางการเงินที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นมูลค่าราว $1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในความพยายามที่จะทำให้เศรษฐกิจโลกนั้นทรงตัว

นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า  ออสเตรเลียทำได้ดีกว่าหลายประเทศแง่ของระบบเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตการณ์นี้ หากเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก โดยย้ำว่า แม้จำนวนหนี้สินโดยรวมของประเทศจะเพิ่มมากขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ หากเทียบกับนานาประเทศที่อยู่ในช่วงวิกฤตการณ์นี้

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังได้กล่าวว่า สภาวการณ์ทางเศรษฐกิจในอนาคตนั้นมีความไม่แน่นอน โดยได้เน้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในรัฐวิกตอเรีย

“มันคือเครื่องย้ำเตือนที่เจ็บปวด ว่าความพ่ายแพ้ในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสามารถสร้างผลกระทบต่อความเร็ว และทิศทางในการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจประเทศได้มากแค่ไหน" นายฟรายเดนเบิร์กกล่าว

มีการคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานนั้นอาจเพิ่มถึงจุดสูงสุดที่ร้อยละ 9.25 ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งต่ำกว่าระดับที่มีการคาดการณ์ไว้ในช่วงที่การแพร่ระบาดนั้นได้เริ่มต้นขึ้น

ขณะที่ข้อมูลการประมาณตัวเลขในระบบเศรษฐกิจและการคลังในอีก​4 ปีข้างหน้าจะยังไม่มีการเปิดเผย จนกระทั่งถึงการประชุมงบประมาณในวันที่ 6 ตุลาคมนี้

นายนายมาธิอัส คอร์มานน์ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า จนถึงวันดังกล่าว รัฐบาลจะอยู่ในจุดที่สามารถระบุรายละเอียดในการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจระยะกลาง ระยะเวลา 10 ปีด้วยเช่นกัน

“การคาดการณ์ระบบเศรษฐกิจและงบประมาณนั้น ยังมีความไม่แน่นอนสูง จากสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในทั่วโลก และในพื้นที่บางส่วนของออสเตรเลีย” นายคอร์มานน์ รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลสหพันธรัฐกล่าว

โดยการปรับปรุงการคาดการณ์ระบบเศรษฐกิจและการเงินดังกล่าว คาดว่าจะแสดงให้เห็นถึงความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ จากมาตรการล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์ในรัฐวิคตอเรีย เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาระลอก 2 ที่อาจทำให้เม็ดเงิน เป็นมูลค่าราว $3,300 ล้านดอลลาร์

ขณะที่รัฐบาลได้ใช้จ่ายหรือวางแผนเกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ เป็นเงินราว $164,000 ล้านดอลลาร์ ในโครงการที่เป็นที่รู้จักดี อย่างเช่น โครงการเงินชดเชยค่าจ้าง JobKeeper มูลค่า $86,000 ล้านดอลลาร์ และโครงการเงินสงเคราะห์ผู้ว่างงาน JobSeeker มูลค่า $17,000 ล้านดอลลาร์

โดยในขณะเดียวกัน รายได้ของรัฐบาลที่ได้จากการเก็บภาษีนั้นได้ลดลง

รัฐมนตรีคลังกล่าวว่า เงินสนับสนุนช่วยเหลือดังกล่าวได้ช่วยรักษาตำแหน่งงานได้กว่า 700,000 ตำแหน่ง และลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานลงในอัตราร้อยละ 5

“ระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม มีการสูญเสียตำแหน่งงานราว 870,000 ตำแหน่ง และมีชาวออสเตรเลียมากกว่า 1 ล้านคน ที่พบว่าชั่วโมงการทำงานนั้นลดลง” นายฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังกล่าวในวันนี้ (23 ก.ค.) 

“ในจำนวนนั้นมีทั้งพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว เพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมงาน”

อัตราว่างงานอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายนนั้นอยู่ที่ร้อยละ 7.4 โดยมีการคาดการณ์อัตราว่างงานโดยประมาณในปีงบประมาณ 2020/21 ไว้ที่อัตราร้อยละ 8.75 
Unemployment is expected to peak at nine and a quarter per cent.
Unemployment is expected to peak at nine and a quarter per cent. Source: AAP
ขณะที่ตัวเลขในส่วนของการลงทุนทางธุรกิจ การใช้จ่ายภาคครัวเรือน ตลาดแรงงานและการค้านั้นลดลงเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

นายฟรายเดนเบิร์กกล่าวว่า ตัวเลขที่ “น่าตกใจ” นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริงที่โหดร้ายจากไวรัสโคโรนา

“มาตรการที่เราได้มีการประกาศไป ประกอบกับการลดลงของมวลรวมภาษีเงินได้ระดับรัฐ ได้ทำให้เกิดผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่สิ่งนี้มีความจำเป็นในการที่จะรองรับ เผื่อไม่ให้ชาวออสเตรเลียต้องสูญเสียเงินมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ เพื่อให้ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงประกอบกิจการได้ รวมถึงทำให้ชาวออสเตรเลียยังคงมีงานทำ” นายฟรายเดนเบิร์กกล่าว

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีคลังได้กล่าวว่า ผลกระทบโดยตรงต่องบประมาณรัฐจะถูกกำหนดขอบเขตไว้ในระยะเวลา 2 ปีงบประมาณ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2019/20 จนถึงปี 2020/21 

“เราได้ออกแบบมาตรการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้รักษาความสมบูรณ์เชิงโครงสร้างของระบบงบประมาณ” นายฟรายเดนเบิร์กกล่าว


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 23 July 2020 6:40pm
Updated 23 July 2020 6:47pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends