รายงานการพิจารณาระบบย้ายถิ่นฐานออสฯ ชี้ 'ต้องเปลี่ยนยกเครื่อง'

การพิจารณาระบบการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียพบว่าระบบซับซ้อนเกินไป ขณะที่ข้อกำหนดสำหรับผู้ที่จะอาศัยอยู่กลับไม่ได้วัดความสามารถระยะยาวในการมีส่วนร่วมต่อระบบเศรษฐกิจ

Home Affairs Minister Clare O'Neil addresses the National Press Club in Canberra.

แคลร์ โอนีล (Clare O'Neil) รัฐมนตรีกิจการภายในออสเตรเลีย ได้เปิดเผยรายงานการพิจารณาระบบย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเตือนว่าระบบนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่สำหรับการเอารัดเอาเปรียบ Source: AAP / Lukas Coch

ประเด็นสำคัญในข่าว
  • แคลร์ โอนีล (Clare O'Neil) รัฐมนตรีกิจการภายในออสเตรเลีย เปิดเผยผลการพิจารณาระบบการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย
  • การพิจารณาดังกล่าวได้แนะนำ “32 ทิศทางการปฏิรูปที่เป็นไปได้” แต่ไม่ได้ให้คำแนะนำใด ๆ ที่ตายตัว
  • ลดประเภทวีซ่าให้น้อยลง เพิ่มเกณฑ์รายได้ และเปลี่ยนแปลงระบบแต้มทดสอบ คือข้อแนะนำบางส่วนจากการพิจารณาดังกล่าว
การพิจารณาระบบการย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียที่หลายฝ่ายรอคอยมานานมาถึงแล้ว ซึ่งได้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบถึงรากถึงโคนในส่วนของประเมินผู้ที่มีโอกาสจะได้เป็นพลเมืองออสเตรเลีย

ที่เผยแพร่โดย แคลร์ โอนีล (Clare O’Neil) รัฐมนตรีกิจการภายในออสเตรเลียในวันนี้ (27 เม.ย.) เตือนว่าระบบนี้ “ไม่เหมาะกับวัตถุประสงค์” และตอนนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่ที่สุกงอมสำหรับการเอารัดเอาเปรียบ

“จุดประสงค์ของโครงการไม่มีความชัดเจน รัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายชุดต่อมาได้ตอบสนองต่อความท้าทายผ่านการปฏิรูปทีละน้อย ซึ่งไม่ได้จัดการแก้ไขปัญหาพื้นฐานที่สำคัญ” รายงานระบุ
A small group of international students sitting outside
การพิจารณาพบว่า ออสเตรเลียไม่สามารถรักษานักศึกษาต่างชาติหลังสำเร็จการศึกษาได้ ซึ่งเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ Source: SBS
การพิจารณาดังกล่าว ซึ่งนำโดยอดีตหัวหน้าหน่วยบริการสาธารณะ มาร์ติน พาร์กินสัน พบว่าระบบย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลียมีความซับซ้อนมากเกินไป โดยมีวีซ่ามากกว่า 100 ซับคลาส ขณะที่ข้อกำหนดของผู้ที่มีความประสงค์จะอาศัยอยู่ต่อในออสเตรเลียไม่ได้ทดสอบความสามารถในระยะยาวของการมีส่วนร่วมต่อระบบเศรษฐกิจอย่างแท้จริง

แต่รายงานดังกล่าวกลับไม่มีข้อแนะนำที่ตายตัวใด ๆ แต่ได้แนะนำ "32 ทิศทางปฏิรูปที่เป็นไปได้" เพื่อให้รัฐบาลพิจารณา

ในการแถลงข่าวต่อสมาคมสื่อมวลชนแห่งชาติ (National Press Club) ซึ่งได้มีการเผยแพร่รายงานดังกล่าว แคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกิจการภายในออสเตรเลีย ได้ยืนยันถึงการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม 2 อย่าง และให้สัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้

ต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญจากรายงานการพิจารณาระบบย้ายถิ่นฐานของออสเตรเลีย

พรรคแรงงานเพิ่มเกณฑ์รายได้สำหรับพิจารณาอนุมัติวีซ่า

ในการประกาศครั้งใหญ่ในวันนี้ คุณโอนีล รัฐมนตรีกิจการภายในของออสเตรเลียได้เปิดเผยว่า พรรคแรงงานได้เพิ่มเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่ผู้ย้ายถิ่นฐานจำเป็นต้องมี เพื่อให้ได้รับการสปอนเซอร์จากนายจ้าง ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว จะทำให้เกณฑ์รายได้สำหรับวีซ่าชั่วคราวของผู้ย้ายถิ่นฐานมีทักษะ หรือ Temporary Skilled Migration Income Threshold (TSMIT) ซึ่งไม่ได้รับการปรับขึ้นนับตั้งแต่มีการกำหนดครั้งแรกเมื่อสิบปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจาก 53,000 ดอลลาร์เป็น 70,000 ดอลลาร์

"นั่นหมายความว่า ทุกๆ ปีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของคนทำงานที่เข้าประเทศออสเตรเลียด้วยวีซ่าทักษะกำลังถูกเปลี่ยนไปสู่งานที่มีค่าแรงต่ำ" คุณโอนีลกล่าว

"การเพิ่ม (เกณฑ์รายได้) ในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้แน่ใจว่าโครงการนี้เป็นไปตามที่กล่าวไว้ นั่นคือโครงการสำหรับแรงงานมีทักษะ ไม่ใช่โครงการสำหรับแรงงานรับเชิญ"

"สถาบันแกรทแทนเรียกสิ่งนี้ว่า The Goldilocks threshold ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม ... แรงงานมีทักษะจำนวนมากที่มายังประเทศของเราค่อนข้างมีอายุน้อย และสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หากเรากำหนดอัตราสูงเกินไปนั่นก็คือการคัดพวกเขาออก"

การพิจารณานี้ยังพบอีกว่า TSMIT "ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้อีกต่อไปและควรได้รับการปรับปรุง" ในขณะที่รายชื่ออาชีพที่นายจ้างสามารถสปอนเซอร์แรงงานทักษะจากต่างประเทศก็มีความล้าสมัย และไม่สะท้อนถึงระบบเศรษฐกิจสมัยใหม่
Two men in suits and ties laugh from behind lecterns.
พรรคแรงงานยังได้ประกาศเส้นทางการเป็นผู้อาศัยถาวรที่ได้รับการผ่อนคลายสำหรับพลเมืองนิวซีแลนด์อีกด้วย Source: AAP / Lukas Coch

หนทางสู่การได้เป็นผู้อาศัยถาวรในออสเตรเลีย

ลูกจ้างชั่วคราวที่มีทักษะทุกคนจะได้รับโอกาสในการสมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวร

คุณโอนีลกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้ จะทำให้การยื่นสมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรมีการแข่งขันกันมากขึ้น

“แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะมีผู้คนจำนวนมากขึ้น” คุณโอนีลย้ำ

“นั่นหมายความว่า กลุ่มแรงงานชั่วคราวที่ถูกปฏิเสธแม้กระทั่งโอกาสในการสมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรก็จะสามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วย”

ทั้งนี้ การย้ายถิ่นฐานชั่วคราวในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นมานับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ปัจจุบันมีผู้ย้ายถิ่นฐานชั่วคราว 2.1 ล้านคนอยู่ในออสเตรเลีย

3 เส้นทางใหม่สำหรับการย้ายถิ่น

พรรคแรงงานต้องการการเปลี่ยนแปลงระบบการย้ายถิ่นฐานแบบถึงรากถึงโคน โดยแบ่งระบบดังกล่าวเป็น 3 ระดับ

แม้รายละเอียดปลีกย่อยจะยังคงอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับสหภาพและธุรกิจต่าง ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีแนวทางที่แตกต่างกันไป โดยขึ้นอยู่กับรายได้และทักษะของผู้สมัครที่จะย้ายถิ่นฐานมายังออสเตรเลีย

เทียร์หนึ่ง (Tier 1) จะเป็นช่องทางที่คล่องตัวสำหรับคนทำงานรายได้สูง ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้มีการตอบสนองที่รวดเร็วสำหรับแรงงานทักษะสูง เพื่อยุติการรอคอยที่ยาวนานซึ่งเป็นอุปสรรคต่อความพยายามเติมช่องว่างแรงงานทักษะซึ่งกำลังขาดแคลนในออสเตรเลีย
“มันเป็นเส้นทางที่รวดเร็วและเรียบง่ายสำหรับคนทำงานที่มีทักษะสูงเฉพาะทางที่เราต้องการ เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมในระบบเศรษฐกิจของเรา มันช่วยสร้างงานสำหรับอนาคต” คุณโอนีล กล่าว

เทียร์สอง (Tier 2) หรือช่องทางสำหรับผู้มีทักษะทั่วไป จะมุ่งเน้นไปที่ผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งจะรับรู้ถึงผลกระทบจากเกณฑ์รายได้ที่มีการปรับใหม่มากที่สุด

“(ช่องทางนี้) จะมุ่งเน้นไปที่การประเมินที่เหมาะสมต่อภาวะขาดแคลนแรงงานมากกว่าวิธีการปัจจุบันที่ล้าสมัย ซึ่งทุกคนยอมรับว่าเป็นวิธีที่ไม่ได้ผล” คุณโอนีล กล่าว

เทียร์ 3 (Tier 3) ช่องทางสำหรับอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็น จะเป็นการปรับปรุงการรับเข้าผู้ย้ายถิ่นฐานรายได้ต่ำ ซึ่งอาจมีผลอย่างมากต่อภาคส่วนที่อยู่ภายใต้แรงกดดัน เช่น การดูแลผู้สูงอายุ

“สาเหตุหนึ่งที่มีการเอารัดเอาเปรียบมากมายเกิดขึ้นในออสเตรเลีย เป็นเพราะว่าเราปล่อยให้โครงการย้ายถิ่นฐานที่มีการจ่ายค่าแรงต่ำดำเนินการอยู่ในเงามืด” คุณโอนีล กล่าว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าระบบใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด แต่รัฐบาลยืนยันว่ากำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ลดประเภทวีซ่าให้น้อยลง

“ระบบของเรานั้นช้าและซับซ้อนอย่างบ้าคลั่ง” แคลร์ โอนีล รัฐมนตรีกิจการภายในออสเตรเลีย กล่าว

“ปัญหาเหล่านี้เป็นมากกว่าเรื่องรำคาญใจ จำไว้ว่าประเทศอื่น ๆ ที่พัฒนาแล้วกำลังแข่งขันกันเพื่อผู้ย้ายถิ่นฐานแบบเดียวกับที่เราต้องการ”

รัฐมนตรีด้านกิจการภายในออสเตรเลียได้แสดงเจตจำนงในการลดจำนวนวีซ่ามากกว่า 100 ซับคลาสของออสเตรเลียลง ซึ่งละเอียดมาก จนถึงกับมีวีซ่าเฉพาะทางให้กับเรือซุปเปอร์ยอร์ชรวมอยู่ด้วย

"มันยุ่งเหยิง ... ซับซ้อนมาก ขนาดว่าหากฉันวาดออกมาเป็นแผนภาพให้คุณเห็น มันคงจะเหมือนสปาเกตตีที่พันกันยุ่งเหยิงอยู่ในชาม" คุณโอนีล กล่าว

คุณพาร์กินสัน กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวถูกซ้ำเติมให้เลวร้ายลง ด้วยการแข่งขันระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นสำหรับแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งไม่ได้ถูกกำหนดให้มีเพียงประเทศอย่างออสเตรเลีย และแคนาดาเช่นแต่เดิมอีกต่อไป

หนึ่งในวีซ่าซึ่งเป็นไปได้ว่าจะถูกตัดออก คือวีซ่าชั่วคราวสำหรับนักลงทุนรายสำคัญ (Significant Investor Provisional Visa) หรือที่เรียกกันว่าวีซ่าตั๋วทอง ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่ลงทุนในออสเตรเลียมูลค่าอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์ ได้อาศัยอยู่ในออสเตรเลียเป็นเวลาสูงสุด 5 ปี พร้อมได้รับการปูทางไปสู่การได้สมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในท้ายที่สุด

“เราคิดว่าวีซ่าบางส่วนเหล่านี้ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของมัน โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นช่องทางลับๆ เพื่อให้ผู้คนเข้ามาและลงทุนในพื้นที่ที่ให้ผลผลิตต่ำซึ่งมีมูลค่าเพียงเล็กน้อยต่อชุมชน และได้รับวีซ่าภายในขั้นตอนนี้” คุณพาร์กินสันกล่าว

รักษานักศึกษาต่างชาติที่มีความสามารถ

การพิจารณาดังกล่าวพบว่า นักศึกษาต่างชาติควรเป็น "แหล่งสำคัญ" สำหรับการย้ายถิ่นฐานของผู้มีทักษะ แต่ออสเตรเลียกำลังล้มเหลวในเรื่องนี้

“ออสเตรเลียกำลังปล่อยให้อดีตนักศึกษาจำนวนมากเกินไปกลายเป็น ‘ผู้อาศัยชั่วคราวถาวร’ ด้วยการไม่ระบุชี้ผู้ที่มีศักยภาพสูงสุดที่จะประสบความสำเร็จ” รายงานระบุ

ในขณะนี้ นักศึกษาต่างชาติไม่สามารถยื่นสมัครวีซ่าผู้สำเร็จการศึกษา (Graduate Vida) จนกระทั่งหลังจากพวกเขาสำเร็จการศึกษาแล้ว ด้วยเวลารอผลที่นานถึง 8 เดือน และไม่มีการประกันว่าจะมีผู้จ้างงานหรือจะได้วีซ่าระยะยาวหรือไม่ บ่อยครั้งที่พวกเขาต้องถูกบังคับให้ทำงานที่ใช้ทักษะต่ำในระหว่างนี้

คุณพาร์กินสันกล่าวอีกว่า วีซ่าชั่วคราวที่พวกเขาได้รับมักจะสั้นกว่าเวลาที่ต้องใช้ในการโอนย้ายและรับรองคุณวุฒิ

“เห็นได้ชัดว่าเราไม่ได้ดึงดูดสิ่งที่ดีที่สุดจากนักศึกษาต่างชาติของเรา พวกเขามาที่นี่ เราให้ความรู้กับพวกเขา เราออกวีซ่าให้กับพวกเขานานกว่าประเทศอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่ แต่ถ้าคุณเป็นนายจ้าง คุณไม่รู้ว่าพวกเขาจะได้รับวีซ่า ผู้สำเร็จการศึกษาจึงติดอยู่ในงานที่มีทักษะต่ำเหล่านี้ เพราะไม่สามารถเข้าสู่งานที่พวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างแท้จริง” คุณพาร์กินสัน กล่าว

ทางออกหนึ่งที่รายงานดังกล่าวแนะนำ คือการออกวีซ่าสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาทันที แต่อย่างไรก็ดี การพิจารณาดังกล่าวยอมรับว่า “อาจไม่ได้แก้ไขเหตุผลสำคัญที่หลายคนดิ้นรนเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเต็มที่”

การเปลี่ยนระบบทดสอบแต้มคะแนน

การพิจารณาดังกล่าวได้เสนอแนะให้ “มีการปรับเทียบใหม่” สำหรับระบบแต้มคะแนนของออสเตรเลีย เพื่อคัดเลือกผู้ย้ายถิ่นฐานที่เป็นไปได้ว่า "จะมีส่วนร่วมต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาวได้มากที่สุด"

“คณะกรรมการกังวลว่า การทดทดสอบปัจจุบันไม่ได้รับการปรับเทียบอย่างเพียงพอ เพื่อแยกแยะความแตกต่างระหว่างผู้สมัครอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากโครงสร้างในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะแยกแยะปัจจัยที่น่าจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในตลาดแรงงานที่ไม่ดี” รายงานระบุ

คุณพาร์กินสันเตือนอย่างโผงผางกว่านั้นว่า การทดสอบแต้มคะแนนในปัจจุบัน “ไม่ได้เลือกผู้ย้ายถิ่นฐานที่น่าจะประสบความสำเร็จได้มากที่สุด” โดยระบุว่า "เกือบทุกคน" เป็นไปตามข้อกำหนดส่วนใหญ่ที่ได้กำหนดไว้ แต่ความสำเร็จในกระบวนการสมัครนั้นกลับพิจารณาจากหลักเกณฑ์เล็ก ๆ และไม่มีความสำคัญ เช่น เคยเรียนหรือทำงานในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียหรือเปล่า

“ตลอดชีวิตผมที่ผ่านมา ผมไม่เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นปัจจัยกำหนดความสำเร็จระยะยาวของออสเตรเลียได้อย่างไร” คุณพาร์กินสันกล่าว


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 27 April 2023 6:45pm
Updated 27 April 2023 7:29pm
By Finn McHugh
Presented by Tinrawat Banyat
Source: SBS


Share this with family and friends