16 ก.ย. สถานการณ์ไวรัสโคโรนาในรัฐวิกตอเรียโดยรวมเริ่มดีขึ้น โดยในวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 42 ราย และมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดนั้น
- เป็นหญิง 4 ราย และชาย 2 ราย ในวัยประมาณ 80 ปี
- ชาย 2 ราย ในวัยประมาณ 90 ปี
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเฉลี่ยในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลดลงมาเหลือ 49.6 รายต่อวัน และ 3.5 รายต่อวัน ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย โดยตัวเลขค่าเฉลี่ยดังกล่าวนั้น เป็นกุญแจสำคัญของการดำเนินการตามแผนแม่บทในการออกจากมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ข้อมูลล่าสุด ณ วันนี้ (16 ก.ย.) รัฐวิกตอเรียมียอดผู้เสียชีวิตสะสมจากไวรัสโคโรนา 737 ราย ขณะที่ทั่วออสเตรเลียมีผู้เสียชีวิตสะสม 824 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อที่ยังแสดงอาการสะสมในรัฐวิกตอเรียนั้นลดต่ำกว่า 1,000 รายแล้ว
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (15 ก.ย.) เป็นวันแรกที่รัฐวิกตอเรียไม่มีผู้เสียชีวิต จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาระลอก 2 ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา
ในวันนี้ นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้ประกาศให้การผ่าตัดแบบไม่รีบด่วน (Elective Surgery) กลับมาเริ่มต้นได้อีกครั้ง หลังต้องระงับไปชั่วคราวตั้งแต่การระบาดระลอก 2 ได้เริ่มต้น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ตั้งแต่ 16 ก.ย. ได้มีการขยายขีดความสามารถการผ่าตัดแบบไม่รีบด่วน ในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรีย จากร้อยละ 50 เป็นร้อยละ 75
- ส่วนในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้น คาดว่าจะมีการขยายขีดความสามารถในการการผ่าตัดแบบไม่รีบด่วน ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ (ขยายเป็นร้อยละ 75)
“เราวางแผนที่จะมีการผ่าตัดแบบไม่รีบด่วน อีก 18,750 ครั้ง ทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ภายในเดือนตุลาคมนี้ และอีก 10,500 ครั้งในลักษณะเดียวกันนี้ ในเดือนพฤศจิกายน” นายแอนดรูส์กล่าว
“นั่นเป็นจำนวนที่มาก และมันนานมากแล้ว ตั้งแต่ที่เราเคยมีผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการน้อยกว่า 1,000 รายเช่นนี้”
โดยตั้งแต่เวลา 23:59 น.ของคืนวันนี้ (16 ก.ย.) จะมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรีย ขณะที่พื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้นจะยังคงอยู่ในมาตรการจำกัดระดับ 4 ต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งสิ่งกีดขวางถนนรอบเขตเมืองที่เรียกว่า “วงแหวนเหล็ก” เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนในเขตเมืองฉวยโอกาสจากการลดระดับมาตรการในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐวิกตอเรีย
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย ได้เตือนผู้ใช้รถใช้ถนนที่จะเดินทางออกจากเขตเมืองว่าจะมีความล่าช้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มความเข้มงวดบริเวณจุดตรวจ
“ผมขออภัยที่ต้องแจ้งว่า จะต้องมีการรอคิวรอนาน รวมถึงมีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทางเกิดขึ้น” นายแอนดรูส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.)
ระหว่างที่มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว จะไม่สามารถเดินทางออกไปยังพื้นที่ส่วนภูมิภาคได้ เว้นแต่จะมีเหตุผลอันสมควร
ในส่วนของการผ่อนคลายมาตรการในพื้นที่ส่วนภูมิภาคนั้น หมายถึง ผับ ร้านอาหาร และร้านกาแฟนั้น จะสามารถเปิดให้บริการลูกค้าภายนอกร้านได้ โดยยังคงปฏิบัติตามข้อกำหนดความหนาแน่นอย่างเคร่งครัด ขณะที่การรวมกลุ่มนอกสถานที่จะสามารถทำได้สูงสุดไม่เกิน 10 คน
นอกจากนี้ ประชาชนในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐวิกตอเรีย จะสามารถออกจากบ้านได้โดยไม่มีข้อจำกัดห้าม และร้านค้าต่าง ๆ จะกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง
ขณะที่มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ชาวนครเมลเบิร์นไม่ควรรู้สึกท้อใจกับการคลายมาตรการในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และให้มองการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวเป็นแรงผลักดัน
“ผมไม่อยากให้ผู้คนมองเช่นนั้น แต่ควรที่จะมองเป็นแบบอย่างในแง่บวก” นายแอนดรูส์กล่าว
ส่วนในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นนั้น จะเข้าสู่ขั้นต่อไปในแผนแม่บทของรัฐวิกตอเรียในวันที่ 28 ก.ย.นี้ หากยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเฉลี่ยในรอบ 14 วันนั้น ลดลงมาอยู่ระหว่าง 30 – 50 ราย
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
วัดลาวในซิดนีย์ตั้งคลินิกตรวจโควิดใกล้ชิดชุมชน
