พยาบาลที่ให้การดูและผู้ป่วยในโรงพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุ (เอจแคร์) และสถานบริการทางสุขภาพต่างๆ จะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือพยาบาลเทคนิค (Enrolled nurse) และพยาบาลวิชาชีพ (Registered nurse)
ผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพย้ายถิ่นเชื่อว่า อาชีพพยาบาลเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการได้เข้าทำงานที่มี “ค่าตอบแทนสูง” และได้เป็นประชากรถาวรในออสเตรเลีย
นารินเดอร์ เคาอา (Narinder Kaur) เจ้าหน้าที่ด้านการอพยพย้ายถิ่นจากนครเพิร์ท ได้บอกกับเอสบีเอส ภาคภาษาปัญจาบว่า อาชีพพยาบาลในออสเตรเลียนั้น มีจำนวนตำแหน่งงานที่สูงในเพดานอาชีพของปีนี้ในระดับสูง
“หากมองในเรื่องทางเลือกของอาชีพ และการได้เป็นประชากรถาวรในออสเตรเลีย พยาบาลเป็นอาชีพที่ดีที่สุด” นางเคาอากล่าว
“ในปีงบประมาณ 2019-20 โครงการอพยพย้ายถิ่นของออสเตรเลียนั้นมีตำแหน่งงานให้กับอาชีพพยาบาลกว่า 17,000 ตำแหน่ง ซึ่งมีจำนวนตำแหน่งงานมากที่สุดหากเทียบกับอาชีพอื่นๆ ในระดับเพดานอาชีพ ดังนั้น มันจึงชัดเจนว่า มันจึงเป็นเรื่องของทางเลือก สำหรับอาชีพที่ต้องการแรงงานที่มีทักษะจากต่างประเทศที่ต้องการมาอยู่อาศัยอย่างถาวรในออสเตรเลีย”
“โดยในอาชีพอื่นๆ นั้น มีการจัดสรรตำแหน่งงานน้อยกว่า 6,000 ตำแหน่งในเพดานอาชีพ ซึ่งจำนวนเหล่านั้นถูกนำมากำหนดโควตาสำหรับอาชีพที่มีความต้องการสูงในออสเตรเลีย”
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สู่เส้นทางอาชีพพยาบาล
ทางเลือกด้านวีซ่า และเส้นทางสู่การเป็นประชากรถาวร (PR)
มีวีซ่าหลายประเภทสำหรับพยาบาลที่มีทักษะ ซึ่งมีคุณวุฒิในท้องถิ่นหรือจากต่างประเทศ มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดี และมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
วีซ่าสำหรับการอพยพย้ายถิ่นของผู้มีทักษะโดยทั่วไป ส่วนมากจะเป็นโครงการวีซ่าอย่าง Skilled Matching Visa สำหรับรัฐและนครหลวงที่กำหนด, Employer Nomination Scheme (ENS), Regional Sponsored Migration Scheme (RSMS) วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (Work and Travel Visa) หรือวีซ่าธุรกิจ (Business Visa)
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป วีซ่าพื้นที่ส่วนภูมิภาคแบบใหม่จะมาแทนที่วีซ่าทักษะส่วนภูมิภาค หรือ Skilled Regional (Provisional) Visa (subclass 489) และโครงการวีซ่าทักษะส่วนภูมิภาคแบบมีสปอนเซอร์ หรือ Regional Sponsored Migration Scheme Visa (subclass 187)
นางเคาอากล่าวอีกว่า สำหรับวีซ่าอพยพย้ายถิ่นมีทักษะทั้งหมด ผู้ยื่นขอจะต้องแสดงคุณวุฒิที่จำเป็น ความสามารถทางภาษา และได้รับการประเมินประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง
“นอกจากนี้ ผู้ยื่นขอวีซ่าจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบรายการทักษะอาชีพ (Skilled Occupation List) สำหรับรหัสอาชีพที่จะต้องใช้ในการยื่นเอกสารให้ตรงกับทักษะที่มี” เธอกล่าวเสริม
“บ่อยครั้งที่เราได้รับเรื่องสำหรับวีซ่ารายบุคคล (Independent) และ/หรือวีซ่าที่รัฐเสนอชื่อ (State Nominated Visa) นอกจากนี้ผู้ยื่นขอวีซ่าสามารถใช้การสปอนเซอร์โดยสมาชิกในครอบครัว ซึ่งสมาชิกที่มีคุณสมบัติพร้อมจะได้สามารถรับแต้มทักษะเพิ่มในส่วนนี้อีกด้วย”
นางเคาอายังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนการดำเนินเอกสารดังกล่าวยังสามารถใช้ได้กับวีซ่าแบบมีนายจ้างสปอนเซอร์ (Employer-Sponsored Visa) ซึ่งรวมถึงวีซ่าแบบชั่วคราว และแบบถาวร
“เมื่อขั้นตอนทางเอกสารเสร็จสมบูรณ์ คุณสมบัติและความสามารถตรงตามความต้องการ พวกเขาจะสามารถอยู่อาศัยในออสเตรเลียได้อย่างถาวร”
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปลี่ยนทางฝันสู่อาชีพพยาบาล
การเปลี่ยนแปลงในขั้นตอนการยื่นเอกสาร
พยาบาลที่ต้องการมาทำงานในออสเตรเลีย และเพื่อจุดประสงค์ในการอพยพย้ายถิ่น จำเป็นที่จะต้องผ่านการประเมินทักษะกับสภารับรองคุณภาพการพยาบาลและการผดุงครรภ์แห่งออสเตรเลีย (Australian Nursing and Midwifery Accreditation Council หรือ ANMAC)
นางเคาอากล่าวอีกว่า การบรรจุวิชาชีพนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับพยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศ
“พยาบาล และพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศ จะต้องได้รับการบรรจุวิชาชีพหรือรับรองจากคณะกรรมการการพยาบาลและการผดุงครรภ์แห่งออสเตรเลีย (NMBA) เสียก่อน ขั้นตอนนี้ง่ายดายและตรงไปตรงมา แต่ผู้ยื่นขอวีซ่าจะต้องเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของขั้นตอนระบบดังกล่าว ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2019 เป็นต้นไป” เธอกล่าว
เมื่อไม่นานมานี้ ได้ประกาศว่า พยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศ (IQNM) จะได้รับทางเลือกในการส่งต่อไปยังโครงการบริดจิง (Bridging Program) หรือเข้าสู่กระบวนการประเมินเชิงผลลัพธ์โดย NBMA ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนมกราคม 2020
จากแถลงการณ์ของ NMBA ระบุว่า “คณะกรรมการพยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์แห่งออสเตรเลีย (NMBA) กำลังจะเปลี่ยนผ่านขั้นตอนการประเมินเพื่อรับรองคุณวุฒิเป็นแบบการประเมินเชิงผลลัพธ์ สำหรับพยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศบางส่วน”
ในขณะนี้ พยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศ (IQNM) ที่มีคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่สามารถเทียบเคียงกับคุณวุฒิของออสเตรเลียได้ตามที่ ANMAC (รวมถึงผู้ที่คุณสมบัติตรงกับมาตรฐานของ NBMA) จะถูกกำหนดให้ได้รับการส่งต่อไปยังโครงการบริดจิง
โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2020 เป็นต้นไป พยาบาลและพยาบาลผดุงครรภ์ที่มีคุณวุฒิจากต่างประเทศทั้งหมดจะต้องเข้าสู่การประเมินเชิงผลลัพธ์ (OBA) ทั้งหมด
โดยการประเมินแบบ OBA นั้นจะประกอบด้วยสองส่วน คือ ข้อสอบแบบเลือกตอบ (multiple-choice exam) ตามด้วยการประเมินทักษะทางคลินิกแบบปรนัย (Object Structured Clinical Examination หรือ OSCE) โดยผู้สมัครจะต้องผ่านข้อสอบแบบเลือกตอบ ก่อนที่จะสามารถทำข้อสอบ OSCE ได้
แต่ถ้าหากคุณได้รับการส่งต่อไปยังโครงการบริดจิงแล้ว คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประเมินผลแบบ OBA ได้
โอกาสดีในพื้นที่ส่วนภูมิภาค
พยาบาลและผู้ผดุงครรภ์กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในออสเตรเลีย ซึ่งรวมถึงในพื้นที่ส่วนภูมิภาคและพื้นที่ห่างไกล
นางเคาอากล่าวในส่วนนี้ว่า พยาบาลมีทักษะจากต่างประเทศจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลีย
“มันมีความต้องการอย่างแท้จริงในพื้นที่ส่วนภูมิภาค ซึ่งมักจะประสบปัญหาในการหาพยาบาลที่มีทักษะตรงตามความต้องการมาทำงานในพื้นที่เหล่านี้ นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอที่จูงใจจำนวนมากสำหรับนักเรียนต่างชาติที่เรียนและอยู่อาศัยในพื้นที่ส่วนภูมิภาคด้วย”
อนาคตดูสดใสสำหรับอุตสาหกรรมการพยาบาล
นางเคาอากล่าวว่า ความต้องการพยาบาลจะยังคงเพิ่มขึ้น จากความต้องการที่สูง และสังคมผู้สูงอายุของออสเตรเลียที่ขยายตัว
“อนาคตดูสดใสสำหรับอุตสาหกรรมการพยาบาล ผู้สรรหาคนเข้าทำงานในด้านสุขภาพและผู้เชี่ยวชาญด้านวีซ่าเชื่อว่าความต้องการอาชีพพยาบาลจะยังคงสูงไปอีกหลายปี ผู้ที่กำลังหางานมีแนวโน้มที่จะมีความหวังเพิ่มขึ้น จากตำแหน่งงานที่มีจำนวนมาก และความต้องการพยาบาลวิชาชีพที่กำลังเพิ่มขึ้น”
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นการให้ข้อมูลเพียงทั่วไปเท่านั้น และไม่ควรถูกนำไปใช้เพื่อแทนที่การขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
Source: SBS Punjabi
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
อยู่กับโรคซึมเศร้าอย่างเข้าใจ
