ผลวิจัยชี้คนรุ่นใหม่เป็นหนี้ท่วมในช่วงวิกฤติไวรัส

Nav, 24 years old, and her partner standing outside their newly purchased property

Nav, 24 years old, and her partner standing outside their newly purchased property Source: Supplied

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

ผลการวิจัยล่าสุดทำการศึกษาเรื่องลักษณะนิสัยและทัศนคติของผู้บริโภคในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและพบตัวเลขที่น่าเป็นห่วงว่าคนหนุ่มสาวกำลังเผชิญกับภาวะเป็นหนี้อย่างหนัก


กดปุ่ม 🔊ที่ภาพด้านบนเพื่อฟังรายงานเรื่องนี้

ศูนย์วิจัยนโยบายผู้บริโภค (The Consumer Policy Research Centre) ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องลักษณะนิสัยและทัศนคติของผู้บริโภคในระหว่างการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโคโรนาและพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ทำการสำรวจนั้นมีความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาในการจ่ายค่าเช่าบ้าน

ผลการวิจัยนี้พบว่าระหว่างเดือนเมษายนจนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่มคนหนุ่มสาวในออสเตรเลียมีการกู้เงินหรือยืมเงินจากผู้อื่นเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังมีสถิติบ่งบอกว่าพวกเขาที่ไม่ได้ชำระบิลค่าใช้จ่ายในบ้าน มากกว่าคนกลุ่มอื่น 2 - 3 เท่า

คุณ ลอเรน โซโลมอน (Lauren Solomon) ประธานบริหารของศูนย์วิจัยนโยบายผู้บริโภค เปิดเผยว่ากลุ่มคนอายุน้อยกำลังเผชิญกับวิกฤติทางการเงินมากกว่าคนกลุ่มอื่นและเริ่มกู้เงินหรือยืมเงินจากผู้อื่นมากขึ้นเรื่อยๆ  

พวกเขาหันไปยืมเงินจากครอบครัวบ้าง เพื่อนฝูงบ้าง หรือถ้ากรณีที่พวกเขาโดนปฏิเสธไม่ให้กู้เงินประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากนั้นพวกเขาจึงหันไปหาการกู้สินเชื่อบุคคลเพย์เดย์ ซึ่งเป็นแหล่งสินเชื่อสำหรับคนร้อนเงินต้องการใช้เงินในเวลาฉุกเฉิน

ในขณะนี้กลุ่มคนอายุน้อยในออสเตรเลียมีปัญหาทางการเงินอย่างไร

เมื่อพิจารณาในการชำระค่าบัตรเครดิตก็พบว่ามีกลุ่มคนหนุ่มสาวเหล่านี้ถึงร้อยละ 8 ที่ไม่ได้ชำระค่าบัตรเครดิตเมื่อเปรียบเทียบกับคนกลุ่มอื่นๆและไม่ชำระค่าประกันมากกว่าคนกลุ่มอื่น 3 เท่าตัวด้วย

กว่าร้อยละ 50 ของคนกลุ่มนี้ที่เป็นผู้เช่าและส่วนที่เหลือมีหนี้เงินกู้ซื้อบ้าน (mortgage) พวกเขาต่างเป็นกังวลว่าพวกเขาจะสามารถชำระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้หรือไม่และการที่พวกเขาไม่มีงานทำหมายถึงว่าพวกเขาถูกบีบให้หาที่อยู่อาศัยที่มีราคาถูกลง

ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงวัย25 ปีผู้หนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่าในช่วงที่เธอกำลังมองหางาน แต่ก็กลับเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเสียก่อนและสถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกวิตกในสถานะทางการเงินของตนเอง

 “ฉันทำงานหนักมากเพื่อจะสามารถเช่ายูนิตอยู่เองได้ ฉันไม่เคยมีปัญหาเรื่องการจ่ายค่าเช่าและฉันมีเงินสำรองที่แยกไว้ต่างหากสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่ในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัส ฉันเอาเงินส่วนนี้มาจ่ายค่าของกินของใช้และค่าเช่า และตอนนี้มันเป็นช่วงที่ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะสามารถจ่ายค่าเช่าที่นี่ไปได้อีกนานแค่ไหน แหละนี่คือสิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดในตอนนี้

แต่คนรุ่นใหม่บางคนก็สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ในภาวะเช่นนี้ได้เช่นกัน เช่น คุณ นาฟ วัย24ปีซึ่งทำงานเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์เปิดเผยว่าเธอและคู่ชีวิตเพิ่งจะซื้อบ้านเพราะเห็นว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างมาก เธอเล่าว่าครอบครัวก็มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนเธอในเรื่องนี้

"พวกเขาให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เราในส่วนที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามา ฉันไม่ได้คาดคิดแต่มันเป็นส่วนที่ช่วยเราได้จริงๆ เราค่อนข้างวางแผนทางการเงินอย่างรัดกุม โดยที่พยายามมีค่าใช้จ่ายไม่เกินรายได้ที่เรามี"

คนออสเตรเลียมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในภาวะนี้อย่างไร

ความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในบ้านนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนหนุ่มสาวเท่านั้น มีรายงานว่าเกือบครึ่งหนึ่งของคนออสเตรเลียทั้งที่อาศัยในเมืองและในเขตพื้นที่ส่วนภูมิภาค เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายของพวกเขา เช่นค่าใช้จ่ายของกินของใช้ในบ้าน และค่าเช่าบ้าน

จะขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างไร

คุณ ลอเรน โซโลมอนให้ความเห็นว่าขณะนี้เป็นเรื่องดีที่ชาวออสเตรเลียเริ่มตระหนักว่ามีหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือแก่พวกเขา

 “ มันเป็นสิ่งที่ดี ที่คนหนุ่มสาวในออสเตรเลียเริ่มองหาหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ดังนั้นเราจะเห็นว่าประมาณร้อยละ 30 ของคนกลุ่มนี้จะติดต่อกับหน่วยงานทั้งหลายเพื่อที่จะเปลี่ยนแผนการชำระเงินหรือการร้องขอความช่วยเหลือในการชำระเงิน หรือ ร้องขอการสนับสนุนค่าใช้จ่ายจากรัฐบาล

แต่สิ่งที่น่าผิดหวังก็คือเราเห็นตัวเลขที่สูงขึ้นเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาติดต่อกับหน่วยงานเหล่านี้ ซึ่งเราควรที่จะเห็นใจและช่วยเหลือความลำบากของพวกเขา”

ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 


 

 

 


Share