ความลำบากในการนำเข้าสินค้าช่วงโควิดอาจทำให้ของขึ้นราคา

Containers at the Port Botany container terminal in Sydney

Containers at the Port Botany container terminal in Sydney Source: AAP

การปิดท่าเรือระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังกดดันต่อผู้ค้าปลีก ซึ่งอาจทำให้พวกเขาต้องขึ้นราคาสินค้า ท่ามกลางค่าขนส่งที่สูงขึ้นและการขาดแคลนสินค้า


การปิดท่าเรือระหว่างประเทศที่สำคัญแห่งต่างๆ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กำลังกดดันต่อผู้ค้าปลีก ทั้งด้านการจัดหาสินค้าตามคำสั่งซื้อ และการให้มีสต็อกสินค้าไว้ภายในร้าน

ด้วยค่าขนส่งระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซัพพลายเออร์ (supplier) จำนวนมากจึงถูกบังคับให้ขึ้นราคาสินค้าของตน

อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ในออสเตรเลียมั่นใจว่า นี่จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในช่วงคริสต์มาสนี้

ฟังรายงาน
LISTEN TO
Supply shortages could lead to price rises image

ความลำบากในการนำเข้าสินค้าช่วงโควิดอาจทำให้ของขึ้นราคา

SBS Thai

09/09/202107:57
อินด์ยา ฟู้ด (Indya Foods) เป็นผู้นำเข้าของชำอินเดียรายใหญ่เป็นอันดับสองของออสเตรเลีย แต่บริษัทกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก เพื่อจัดหาสินค้ามาให้เพียงพอกับความต้องการ

คุณ มูราลิ (Murali) ของบริษัทกล่าวว่า ต้นทุนการจัดส่งสินค้าที่สูงกำลังทำให้เกิดปัญหามากขึ้น

"แน่นอนทีเดียวว่า ค่าจัดส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น ก่อนหน้านี้ตู้คอนเทนเนอร์ที่จัดส่งสินค้าซึ่งเราเคยจ่าย 700-900 ดอลลาร์ วันนี้เราจ่ายสูงถึง 9,000 ดอลลาร์ ยิ่งไปกว่านั้น ในออสเตรเลีย รัฐบาลไม่มีอำนาจควบคุมท่าเรือ ดังนั้น ท่าเรือจึงขึ้นราคาเรื่อยๆ แต่ก่อน ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายบางอย่าง แต่ตอนนี้ สำหรับแต่ละตู้คอนเทนเนอร์นั้น เราต้องจ่ายเพิ่ม 250-300 ดอลลาร์แค่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พวกเขาขึ้นราคาอยู่ตลอด" คุณ มูราลิ กล่าว

เขากล่าวว่า สินค้าที่ค้างส่งที่ท่าเรือต่างๆ ทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมาก กว่าที่สินค้าจะถูกส่งมาถึงยังชั้นจัดแสดงสินค้าในร้านค้าต่างๆ

"ตามปกติระยะเวลาเดินเรือจากต่างประเทศ เช่น ถ้าเราใช้อินเดียเป็นตัวอย่าง เราควรได้ตู้คอนเทนเนอร์กลับมาภายใน 25 วัน แต่เนื่องจากสภาพการจัดส่งสินค้าเหล่านี้ ความล่าช้าต่างๆ และทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมาก ในบางครั้งอาจใช้เวลาถึงสองหรือสามเดือน" คุณ มูราลิ อธิบาย
Container ship
Pixabay Source: Pixabay
คุณเจมส์ ทีโอ (James Teo) นักวิเคราะห์ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) กล่าวว่าปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ทั่วโลกทำให้เกิดความโกลาหลสำหรับผู้ค้าปลีกทั้งรายใหญ่และรายย่อย

"เรามีสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันอย่างที่เรากำลังเห็นในอุตสาหกรรมการเดินเรือ เรามีข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19 ที่ทำให้การดำเนินการของท่าเรือมีประสิทธิภาพน้อยลง พนักงานได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเหล่านี้ทั้งหมด ดังนั้นท่าเรือจึงไม่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และขณะเดียวกันท่าเรือบางแห่งก็ปิดให้บริการไป"

"อย่างในประเทศจีนมีคนงานในท่าเรือคนหนึ่งที่พบว่าติดเชื้อโควิด และพวกเขาต้องปิดเทอร์มินัลเป็นเวลาสองสามสัปดาห์และผลกระทบที่ตามมาก็ค่อนข้างสูง เพราะถ้าเราติดอยู่ที่ท่าเรือหนึ่งและเราไม่สามารถลำเลียงสินค้าออกมาได้ มันจะส่งผลต่อกำหนดเวลาที่เหลือของเราด้วย หากเราจะต้องไปที่ท่าเรืออื่นๆ ต่อจากนั้น" คุณทีโอ กล่าว

ซัพพลายเออร์ระดับนานาชาติกำลังขึ้นราคาสินค้า ซึ่งบีบให้เจ้าของธุรกิจอย่างคุณอีฟ (Yves) ส่งต่อราคาที่เพิ่มขึ้นไปยังลูกค้า

เขาเป็นห่วงเกี่ยวกับผลกระทบของเรื่องนี้ต่อร้านขนมหวานแบบฝรั่งเศสของเขา

"เช่นเนย เนยนำเข้าทั้งหมดที่เราใช้สำหรับครัวซองต์ของเรามีราคาเพิ่มขึ้น 2-3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเนื้อผลไม้บดละเอียดที่เราใช้ก็ขึ้นราคาราว 20-40 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ย หนึ่งในเหตุผลหลักคือ แน่นอนว่าเป็นเรื่องการขนส่งสินค้า โดยทั่วไปค่าขนส่งระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก" คุณอีฟ กล่าว
Shipping containers at a port
Pixabay Source: Pixabay
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีก บิก ดับเบิลยู (Big W) ได้ให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่าปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) จะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกค้าในช่วงคริสต์มาส

ในแถลงการณ์ของบิก ดับเบิลยู  ระบุว่า คำสั่งซื้อสินค้าสำหรับช่วงคริสต์มาส "อยู่กลางทะเลแล้ว" และกำลังเดินทางมายังออสเตรเลีย โดยให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่า จะมีสินค้าในสต็อกมากมายในหลายเดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตามคุณเจมส์ ทีโอ (James Teo) ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น

“มันเป็นเรื่องของอุปสงค์และอุปทาน ขณะนี้มีความต้องการมากจริงๆ จนผู้คนไม่สามารถได้พื้นในตู้คอนเทนเนอร์ที่พวกเขาต้องการได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ความต้องการซื้อสินค้า และผู้ค้าปลีกต่างๆ ต้องการสต็อกสินค้าใหม่อย่างเร่งด่วน ดังนั้นพวกเขาจึงยินดีจ่ายอย่างยิ่ง ความสามารถในการจัดส่งทำให้เกิดความล่าช้าอย่างมากในการเติมสินค้าคงคลัง ตัวอย่างเช่น สินค้ายอดนิยมอย่าง PlayStation 5 นั้น ผมได้ยินมาว่ามันถูกซื้อไปทันทีที่ถูกนำไปวางบนชั้นวางสินค้าในร้าน ดังนั้นถ้าคุณเห็นมันที่ไหน ก็ต้องรีบคว้าไว้เลย” คุณทีโอ กล่าว

แต่ไม่ใช่แค่ภาคการค้าปลีกเท่านั้นที่พยายามแย่งชิงส่วนแบ่งสินค้าในสต็อก

คุณพอล ซาไล (Paul Zalai) จากสมาคมการจัดส่งสินค้าและการค้า (Freight and Trade Alliance) กล่าวว่าผู้ส่งออกสินค้าเกษตรของออสเตรเลียก็ได้รับผลกระทบจากความล่าช้าต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน

"เรากำลังประมาณการว่า มันทำให้ผู้ส่งออกธัญพืชต้องจ่ายเพิ่มอีก 50- 150 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน นี่จึงผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ส่งออกเหล่านั้นและธุรกิจที่รับช่วงสินค้าต่อ ส่งผลกระทบต่อชุมชนในภูมิภาคและเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนมานานหลายปี ทั้งจากภัยแล้ง ไฟป่า และตอนนี้ก็เจอการระบาดใหญ่ของเชื้อโรคเข้าไปอีก ก่อนจะเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่กระทบของเล่นในวันคริสต์มาส แต่ยังรวมถึงสินค้าอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าคุณจะพูดถึงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ผู้นำเข้าเหล็กของเราและอื่นๆ ต่างก็ประสบความยากลำบากในการนำสินค้าจำเป็นเข้ามายังออสเตรเลีย" คุณพอล ซาไล (Paul Zalai) จากสมาคมการจัดส่งสินค้าและการค้า กล่าว

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

พาสปอร์ตวัคซีนของออสเตรเลียทำงานอย่างไร




Share