พาสปอร์ตวัคซีน (vaccine passport) ได้ถูกกำหนดให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการระบุสถานะการฉีดวัคซีนของประชาชน ขณะที่ออสเตรเลียกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ความเป็นจริงในการอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 กำลังมีการดำเนินการเพื่อเปิดตัวใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในการใช้เป็นหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ รวมถึงการใช้งานภายในออสเตรเลีย
รัฐบาลสหพันธรัฐระบุว่า ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จะมีพาสปอร์ตวัคซีนระหว่างประเทศให้กับชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ออสเตรเลียกำลังเตรียมพร้อมในการกลับมาของการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง
แต่ยังคงไม่มีความชัดเจนว่า จะใช้พาสปอร์ตวัคซีนนี้สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศได้เมื่อไหร่ ในระหว่างที่พรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียยังคงปิดอยู่ และยังคงไม่มีความชัดเจนว่า เมื่อใดที่ออสเตรเลียจะเปิดตัวใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับใช้งานภายในประเทศ เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การอนุญาตให้ประชาชนที่มีใบรับรอง เข้ารับบริการในสถานบริการ หรือเข้าร่วมอีเวนต์ต่าง ๆ
นึ่คือสิ่งที่เราทราบจนถึงขณะนี้ ว่าใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะทำงานอย่างไร
พาสปอร์ตวัคซีนสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ
คาดว่าผู้เดินทางระหว่างประเทศจะมีพาสปอร์ตวัคซีน ทั้งในรูปแบบดิจิทัลบนโทรศัพท์มือถือ และในรูปแบบเอกสาร
นายแดน เทียน (Dan Tehan) รัฐมนตรีการท่องเที่ยวของออสเตรเลีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า รายละเอียดในขั้นตอนสุดท้ายของพาสปอร์ตวัคซีนนั้นกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
“เรากำลังอยู่ในกระบวนการวางแผนสำหรับส่วนนั้น เพื่อให้เรามีระบบดังกล่าวที่พร้อมใช้งานภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” นายเทียน กล่าว
รัฐมนตรีการท่องเที่ยวระบุอีกว่า สิ่งนี้จะช่วยอำนวยความสะดวก ในการเดินทางเข้าและออกระหว่างประเทศสำหรับชาวออสเตรเลีย เมื่อมีจำนวนประชาชนในประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วถึงร้อยละ 80
“ชาวออสเตรเลียจะสามารถเดินทางระหว่างประเทศได้อีกครั้ง และชาวออสเตรเลีย (ที่อยู่ในต่างประเทศ) จะสามารถเดินทางกลับมาได้ในจำนวนมากขึ้น” นายเทียน กล่าว
โดยในใบรับรองการฉีดวัคซีนนั้น จะประกอบไปด้วยข้อมูลส่วนตัวของคุณ อย่างเช่น ข้อมูลเดียวกับที่อยู่บนพาสปอร์ต พร้อมกับคิวอาร์โค๊ด (QR Code)
เอสบีเอส นิวส์ เข้าใจว่า ชาวออสเตรเลียที่เดินทางกลับประเทศ จะไม่ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน เนื่องจากข้อมูลการฉีดวัคซีนจะถูกระบุลงในพาสปอร์ต
ส่วนชาวออสเตรเลียที่เดินทางไปต่างประเทศ และต้องการแสดงหลักฐานเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน จะสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันเพื่อใช้ตราประทับดิจิทัล (digital seal) หรือคิวอาร์โค้ด (QR Code) ที่สามารถสแกนได้ในต่างประเทศ
โดยใบรับรองการฉีดวัคซีนนี้ จะสามารถยืนยันสถานะการฉีดวัคซีนกับนานาประเทศได้ และจะยอมรับวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (ทีจีเอ) เช่น วัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ไฟเซอร์ (Pfizer) และโมเดอร์นา (Moderna)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
อย.ออสฯ เตือนอย่าซื้อ ‘ไอเวอร์เม็กติน’ มากินรักษาโควิด
'ไม่ใช่แค่เรื่องข้ามพรมแดน'
ดร.เท็ด ดันสโตน (Dr Ted Dunstone) ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลชีวมาตรและการระบุตัวตน กล่าวว่า การนำระบบพาสปอร์ตวัคซีนมาใช้ในการเดินทางระหว่างประเทศ ถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อน ประกอบกับความยากลำบากหลายอย่างที่ยังคงมีอยู่ เกี่ยวกับการแสดงหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนในต่างประเทศ
“มีปริศนาจิ๊กซอว์ขนาดใหญ่ในด้านเทคโนโลยี นโยบาย และข้อพิจารณาอื่น ๆ ที่จะต้องต่อและสอดรับกันให้พอดี” ดร.ดันสโตน กล่าว
“มันไม่ใช่เพียงแค่การเดินทางข้ามพรมแดน การข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่ง แต่เมื่อผมอยู่ในประเทศ และผมต้องไปร้านกาแฟ หรือทำอะไรสักอย่าง ผมจำเป็นจะต้องแสดงหลักฐานระบุตัวตนอะไรก็ได้”
ที่ฝรั่งเศส ประชาชนต้องใช้บัตรรับรองสุขภาพ หรือเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน ก่อนเข้าร้านอาหาร บาร์ พิพิธภัณฑ์ และสนามกีฬา
ส่วนที่สหรัฐ ฯ มีกฎบังคับใช้ที่แตกต่างกันสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) จะสามารถเฝ้าสังเกตอาการของโรคโควิด-19 ได้ด้วยตนเอง และไปรับการตรวจภายใน 3-5 วัน หลังจากที่เดินทางมาถึง ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จะต้องกักตนเองเป็นเวลา 7 วัน หลังจากที่เดินทางมาถึง
ดร.ดันสโตน กล่าวอีกว่า ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ที่ระบบนี้จะกลายเป็นเป้าของมิจฉาชีพและการซื้อขายใบรับรองการฉีดวัคซีนในตลาดมืดออนไลน์
“ไม่มีอะไรในระบบเหล่านี้ที่จะไม่ผิดพลาด และทุกอย่างมาพร้อมกับข้อแลกเปลี่ยน” ดร.ดันสโตน กล่าว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
การหลอกให้รักแล้วลวงเอาเงินพุ่งสูงช่วงโควิด
การใช้พาสปอร์ตวัคซีนในประเทศ
รัฐบาลสหพันธรัฐกำลังพิจารณาว่า จะสามารถใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนเป็นหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนกับแอปพลิเคชันเช็คอิน (check-in apps) ที่ใช้สแกนคิวอาร์โค้ดก่อนเข้าไปยังสถานบริการต่าง ๆ ในปัจจุบันได้อย่างไรบ้าง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ใบรับรองการฉีดวัคซีนสามารถแสดงสถานะการฉีดวัคซีนของบุคคลนั้น ๆ ว่าได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน หรือได้รับการยกเว้นไม่ต้องฉีดวัคซีน
รัฐมนตรีการท่องเที่ยว กล่าวว่า ระบบภายในประเทศนี้ มุ่งเน้นให้ชาวออสเตรเลียสามารถแสดงหลักฐานในการฉีดวัคซีนได้ง่ายขึ้นในทั่วประเทศ
“เราจะดูในส่วนของการพัฒนาระบบคิวอาร์โค้ดที่ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของรัฐและมณฑลต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อคุณจำเป็นต้องแสดงหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าคุณมีใบรับรองการฉีดวัคซีน คุณก็จะสามารถทำได้อย่างง่ายดาย” นายเทียน กล่าว
“และนั่นจะหมายความว่า เมื่อคุณไปอีเวนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต หรือโรงละคร คุณจะแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนของคุณได้อย่างชัดเจน”
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เมื่อไหร่โควิด-19 ในออสเตรเลีย จะกลายเป็นเพียง ‘โรคประจำถิ่น’
เมื่อไหร่ที่จำเป็นจะต้องใช้พาสปอร์ตวัคซีน
รัฐบาลสหพันธรัฐระบุว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะกลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง เมื่อระดับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปในรัฐและมณฑลต่าง ๆ บรรลุเป้าที่ร้อยละ 80 และเมื่อมีระบบกักตัวเฝ้าระวังอาการจากที่บ้าน (home quarantine) ที่มีประสิทธิภาพ
ภายในออสเตรเลีย แผนการเปิดประเทศอีกครั้ง บนพื้นฐานของอัตราการฉีดวัคซีนของประชาชนทั้งประเทศระหว่างร้อยละ 70-80 ยังเป็นสิ่งที่กำหนดอีกว่า มาตรการล็อกดาวน์จะสิ้นสุดลงได้เมื่อใด
โดยในขณะนี้ มีประชาชนในออสเตรเลียที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปประมาณร้อยละ 39 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้ว
นางมาร์กีย์ ออสมอนด์ (Margy Osmond) ประธานบริหารของสภาการท่องเที่ยวและการขนส่ง (Tourism and Transport Forum) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวต้อนรับการเข้าสู่ระบบใบรับรองการฉีดวัคซีน
“เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้น แต่จะมีประเด็นในเรื่องการให้เวลาที่เพียงพอสำหรับธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับความต้องการเมื่อเรากลับมาเปิดกันอีกครั้ง และเมื่อถึงจุดนั้นที่ผู้คนจะพูดในทำนองว่า ‘ฉันมีบัตรผ่านวัคซีนแล้ว ฉันไปละ’” นางออสมอนด์ กล่าวกับเอสบีเอส นิวส์
นายมาร์ค บัตเลอร์ (Mark Butler) โฆษกด้านสาธารณสุขของพรรคแรงงาน กล่าวว่า บรรดาธุรกิจต่าง ๆ ต้องการความแน่นอนเกี่ยวกับแผนการนี้เต็มที
“ธุรกิจพร้อมแล้วที่จะเดินหน้า มีความต้องการพาสปอร์ตวัคซีนระหว่างประเทศจากสายการบินของเรา รวมถึงจากประเทศอื่น ๆ แต่เรายังไม่มีแผนจาก นายสกอตต์ มอร์ริสัน ที่จะทำให้มันเป็นไปได้” นายบัตเลอร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว
หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
คนไทยบอกเคล็ดลับสอบซิติเซ่นให้ได้ 100%
