หนทางอพยพมาออสเตรเลียด้วยวีซ่าธุรกิจและการลงทุน

Businessman looking out of office over city

Australia's Business Innovation and Investment Program provides a pathway to permanent residency for investors, innovators, entrepreneurs and business people. Source: Getty Images/Ezra Bailey

นับเป็นเวลาหลายปี ที่โปรแกรมนี้นำเงินลงทุนหลายพันล้านดอลล่าร์มาสู่ออสเตรเลีย และเสนอหนทางเพื่อเป็นผู้พำนักถาวรแก่นักลงทุน ผู้ริเริ่ม และผู้อพยพที่มีทักษะด้านธุรกิจ ในปีนี้รัฐบาลได้เปลี่ยนกฎของการขอวีซ่าธุรกิจเป็นครั้งแรก ตั้งแต่วีซ่านี้เปิดตัวในปี 2012


ประเด็นสำคัญ

  • ประเภทซับคลาสวีซ่าธุรกิจลดลง
  • ข้อกำหนดเรื่องทรัพย์สินและผลประกอบการที่สูงขึ้น
  • ยกเลิกข้อกำหนดการลงทุนสำหรับวีซ่าผู้ประกอบการ

โปรแกรมวีซ่านวัตกรรมธุรกิจและการลงทุน (Business Innovation and Investment Program) เสนอโอกาสให้นักลงทุน ผู้ริเริ่ม ผู้ประกอบการ และผู้ที่มีทักษะและประสบการณ์ด้านธุรกิจ สามารถอพยพย้ายถิ่นมาสู่ออสเตรเลีย

ตั้งแต่ปี 2012 โปรแกรมวีซ่านี้ได้กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในระบบเศรษฐกิจของออสเตรเลียถึงเกือบ $16 พันล้านดอลล่าร์ ในปีนี้ รัฐบาลจะเปลี่ยนกฎที่สำคัญบางประการ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2012

ประเภทซับคลาสวีซ่าธุรกิจลดลง

คุณคริส จอห์นสตัน ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัททนายความด้านการอพยพย้ายถิ่นที่ เวิร์ก วีซ่า ลอว์เยอร์ส กล่าวว่า หนทางของวีซ่านี้ถูกหั่นให้เหลือ 4 ประเภท จากเดิม 9 ประเภท
หนทางตรงสู่สถานะผู้พำนักถาวร (permanent residency) วีซ่า 132 ถูกถอดออก ตอนนี้วีซ่าธุรกิจทั้งหมดจะอยู่ในประเภท ซับคลาส (subclass) 188 และพวกเขาจะสามารถขอสถานะเป็นผู้พำนักถาวรผ่านวีซ่า 888
วีซ่าที่ยังเหลืออยู่คือ วีซ่านวัตกรรมธุรกิจ (Business Innovation) ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) นักลงทุน (Investor) และนักลงทุนรายใหญ่ (Significant Investor)

วีซ่า 4 ประเภทนี้จะอยู่ภายใต้ซับคลาส 188 ซึ่งเป็นวีซ่าชั่วคราวที่สามารถขอสถานะผู้พำนักถาวรได้ภายใต้วีซ่าซับคลาส 888
Visa
การอนุมัติวีซ่า Source: Getty Images/Alexander W Helin
คุณจอห์นสตันเผยว่า วีซ่าธุรกิจชั่วคราวเหล่านี้จะได้รับการอนุมัติให้ได้เวลาที่นานขึ้น

“หนึ่งในกฎที่เปลี่ยนไปของวีซ่า 188 คือระยะเวลาที่แตกต่างกัน โดยรัฐจะอนุมัติให้ห้าปี นับว่าได้เวลาเพิ่มมาหนึ่งปี และมีหลายสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จภายในสามปี เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้พำนักถาวร นี่นับว่าเป็นข้อดีที่สำหรับเวลาที่ได้เพิ่มขึ้นมา และความยืดหยุ่นต่อผู้สมัคร เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนด ก่อนที่จะสามารถยื่นขอสถานะผู้พำนักถาวรได้”

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2012 เมื่อโปรแกรมวีซ่าธุรกิจเปิดตัวเป็นครั้งแรก ที่รัฐบาลเปลี่ยนข้อกำหนดในการสมัครวีซ่านวัตกรรมธุรกิจ หรือวีซ่าซับคลาส 188A

ข้อกำหนดเรื่องทรัพย์สินและผลประกอบการสูงขึ้น

นายจอห์นสตันกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการประเมินทรัพย์สินส่วนบุคคลและธุรกิจ และผลประกอบการ ซึ่งเดิมถูกกำหนดไว้ที่ $500,000 ดอลล่าร์

“สิ่งที่เปลี่ยนไปสำหรับ 188A คือระดับเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น จำนวนทรัพย์สินส่วนบุคคลและธุรกิจถูกปรับเพิ่มขึ้นจาก $800,000 ดอลล่าร์ เป็น $1.25 ล้านดอลล่าร์ และข้อกำหนดสำหรับผลประกอบการก็เพิ่มขึ้นด้วย ผู้สมัครจะต้องแสดงว่าพวกเขามีผลประกอบการ $750,000 ดอลล่าร์ ใน 2 ปี จาก 4 ปีล่าสุด”

ข้อกำหนดเรื่องเงินลงทุนสำหรับวีซ่านักลงทุนรายใหญ่ยังคงอยู่ที่ $5 ล้านดอลล่าร์ ในขณะที่วีซ่านักลงทุนต้องลงทุน $2.5 ล้านดอลล่าร์ เพิ่มจากเดิม $1.5 ล้านดอลล่าร์
Australia’s Business Innovation and Investment Program doubled in size in 2020-21
ข้อกำหนดเรื่องการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ Source: Getty Images
นายจอห์นสตันชี้ว่า ก่อนหน้านี้ผู้สมัครสามารถลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของแต่ละรัฐได้ แต่ตอนนี้พวกเขาต้องลงทุนให้สอดคล้องกับการลงทุนที่รัฐกำหนด ตามหลักปฏิบัติเพื่อความสอดคล้องของการลงทุน (Complying Investment Framework)

“หลักปฏิบัติเพื่อความสอดคล้องของการลงทุนกำหนดว่า นักลงทุนต้องลงทุนในกองทุนร่วมลงทุนและกองทุนไพรเวท โกรท อิควิตี้ (Private Growth Equity) 20 เปอร์เซ็นต์ และลงทุนในบริษัทที่เกิดใหม่ 30 เปอร์เซ็นต์ และการลงทุนแบบสมดุล 50 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่แสดงให้เห็นคือการเพิ่มระดับการลงทุนในกองทุนร่วม และลดระดับการลงทุนในแบบสมดุล”

นายเบ็น วัตต์ ทนายความและเอเจ้นท์ดำเนินเรื่องการย้ายถิ่นที่ได้รับการลงทะเบียน ที่ซีค วีซ่า (SeekVisa) กังวลว่า นักลงทุนส่วนมากจะไม่มองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ประโยชน์

“กฎที่เปลี่ยนไปในเรื่องที่ว่าเงินจะไปที่ไหน ตอนนี้เงินลงทุนไม่ไปที่รัฐอีกต่อไป คุณต้องลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ หรือบริษัทคล้ายๆ กันในออสเตรเลีย และยังทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นเล็กน้อย มีความเสี่ยงสูงที่คุณจะสูญเงินทั้งหมดไปกับการลงทุนที่คุณลงเงินไป แต่แน่นอน คุณอาจจะได้กำไรจากการลงทุนเหล่านั้นเช่นกัน คุณอาจทำได้ดีหรืออาจจะเสี่ยงมากเช่นกัน รัฐบาลแต่ละรัฐนั้นไม่เคยปลดนี้พันธบัตรรัฐบาลได้ แต่บริษัทเหล่านี้อาจล้มเหลวได้”

ยกเลิกข้อกำหนดการลงทุนสำหรับวีซ่าผู้ประกอบการ

สำหรับคุณวัตต์ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีในวีซ่าประเภทผู้ประกอบการ ซับคลาส 188 คือการไม่มีข้อกำหนดเงินทุน $200,000 ดอลล่าร์อีกต่อไป และหนทางการยื่นขอสถานะผู้พำนักถาวรก็ง่ายขึ้นเช่นกัน

“และมันไม่มีข้อกำหนดเรื่องความสำเร็จ ซึ่งวีซ่าตัวนี้เคยมีก่อนหน้านี้ เช่น การสร้างผลประกอบการประจำปีของบริษัทของคุณ $300,000 ดอลล่าร์ หรือการจ้างคนออสเตรเลียแบบฟูลไทม์ (full-time) สองคน หรือการจดสิทธิบัตร หรือข้อกำหนดเรื่องการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หรือการขายกิจการของคุณสองล้านดอลล่าร์ หรือการร่วมหุ้นกับมหาวิทยาลัย”
Younger people in modern office
วีซ่าผู้ประกอบการเอื้อต่อนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม Source: Gerry Images/Kelvin Murray
ผู้สมัครวีซ่าผู้ประกอบการนั้นต้องได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐบาลของแต่ละรัฐหรือแต่ละมณฑล คุณวัตต์อธิบาย

โดยคุณวัตต์ยินดีกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจนำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาในประเทศ แบบที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม มากกว่าแนวคิดในการทำธุรกิจแบบเดิมที่มุ่งแค่การทำเงิน

“บางคนอาจมีความคิดที่ดีมากๆ เช่น ผู้สมัครวีซ่าที่สร้างความตระหนักเรื่องการฆ่าตัวตาย สุขภาพจิต หรืออะไรทำนองนั้นที่เป็นแง่บวก และอาจไม่มีเงินรางวัลหรือผลตอบแทนสูง แต่การเริ่มทำสิ่งเหล่านั้น และโน้มน้าวรัฐบาลว่านี่เป็นความคิดริเริ่มที่ดี มันอาจเป็นอะไรที่ส่งผลต่อรัฐที่คุณอาจจะมีสถานะผู้พำนักถาวร ด้วยสิ่งที่ดีต่อสังคม และไม่ใช่แค่การสร้างรายได้ คุณรู้ไหม นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาก”

คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีซ่าธุรกิจ การลงทุน และนวัตกรรม ได้ที่ 


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share