Everest Base Camp พิชิตยอดเขากับพิชิตใจ สิ่งไหนยากกว่ากัน

คุณแจ้ นรากร สงเนียม Credit: นรากร สงเนียม

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

Everest Base Camp (EBC) พิชิตยอดเขากับพิชิตใจ สิ่งไหนยากกว่ากัน บทสัมภาษณ์การเดินทางสู่เอเวอเรสต์เบสแคมป์ ต้นทางสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดแห่งเทือกเขาหิมาลัย เส้นทางการเดินเขาสุดโหดทรหด ที่พิสูจน์ "ใจ" คน

คุณนรากร สงเนียม หรือคุณแจ้ จะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางที่ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศที่แปรปรวนคาดเดาไม่ได้ ความหนาวสุดขั้ว ความเหน็ดเหนื่อยจากระดับออกซิเจนที่บางเบา การต่อสู้กับความท้อในจิตใจ เป็นการเดินทางที่ไม่ใช่แค่เพื่อเอาชนะความยากในเรื่องของ 'เส้นทาง' แต่เป็นวิถีทางในการเอาชนะขีดจำกัดของ 'จิตใจ'

คุณแจ้บอกกับเราว่า นี่เป็นการเดินทางมายังเนปาลเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกเขาได้พิชิต Annapurna Base Camp เมื่อสามปีที่แล้ว และให้สัญญากับตัวเองว่า จะมาท้าพิสูจน์เส้นทาง Everst Base Camp ให้ได้สักครั้ง

วิวระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขา Credit: นรากร สงเนียม

คุณแจ้แนะนำว่าการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนไปตะลุยทริปนี้เป็นสิ่งสำคัญ

“แจ้เตรียมตัวต่างจากคนอื่น เพราะก่อนไปทริปนี้ได้เข้าตารางซ้อมวิ่งมาราธอน 3 เดือน เพื่อเพิ่มความฟิต และมีเล่น body weight บ้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของขา แต่บอกให้แฟน ออกไปวิ่งวันเว้นวัน ครั้งละ ครึ่งชั่วโมง ซึ่งก็ทำให้เราแข็งแรงพอที่จะเดินจนจบทริปได้ จริงๆ แล้วเราจะออกกำลังกายอย่างไรก็ได้ เพื่อให้เราสามารถแบกเป้หนัก 5 กิโล แล้วเดินอย่างน้อย 10 กิโล ติดต่อกันทุกวันได้”

สนามบิน Lukla สนามบินที่อันตรายที่สุดในโลก เป็นสนามบินที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ถ้าวิสัยทัศน์ไม่ดี เครื่องจะไม่บิน

นอกจากเรื่องการเตรียมร่างกายให้พร้อมแล้ว เรื่องการเตรียมใจ ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย คุณแจ้บอกว่า

ต้องเตรียมใจรับกับสิ่งที่จะต้องเจอในแต่ละวัน เรื่องที่พักที่ต้องใช้ห้องน้ำรวม เตรียมใจที่จะต้องทานอาหารซ้ำๆ และเตรียมรับกับอากาศหนาวเย็นอุณหภูมิติดลบ และการที่จะไม่ได้อาบน้ำในวันที่อากาศหนาวมากๆ เพราะจะเป็นอันตรายได้ถ้าร่างการสูญเสียความร้อน

Sunset at Pangboche 3930m Credit: นรากร สงเนียม

“ทริปที่ไปกันมีทั้งหมด 15 คน ระหว่างทางมีคนไม่สบายในทุกๆ วัน บางคนไม่พร้อมที่จะเดินต่อ ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ลงก่อนกำหนดก็มี ส่วนคนที่เหลือเราก็พยายามให้กำลังใจกันและกัน และช่วยเหลือกัน จนไปถึง base camp ได้ 10 คน”

Khumbu Glacier with Himalaya Mountain range at 5000m ตอนกำลังจะถึง Gorak Shep 5175m หมู่บ้านสุดท้ายก่อน base camp Credit: นรากร สงเนียม

อาหารเนปาลมี Dalbhat เป็นอาหารหลัก ส่วนประกอบคือ ข้าว มันสำปะหลัง ซุปถั่ว และแกง เติมได้ รสชาติส่วนใหญ่รสชาติจืด เช่น ข้าวผัดไข่ ก๋วยเตี๋ยวผัดไข่ ไข่เจียว ไข่ดาว เราต้องมั่นใจว่าเราต้องกินให้พอ เพื่อมีแรงเดินในแต่ละวัน เลยแนะนำให้ติดน้ำพริก ซอสพริก ซอสปรุงรสไปเพิ่มรสชาดอาหาร เพื่อให้ถูกปากคนไทยอย่างเรา

Rara noodle อาหารสไตล์เนปาลที่มีไว้ให้เติมพลังระหว่างการเดินทาง

คนเนปาลใจดี มีน้ำใจ พร้อมช่วยเหลือ ระหว่างเดินสวนกัน ก็จะทัก Namaste กับทุกคนตลอดทาง

ตอนแรกคิดว่า climax คือการไปถึง base camp และได้ถ่ายรูปกับก้อนหินก้อนนั้น แต่แท้จริงแล้ว Climax จริงๆ ของทริปนี้ คือเรื่องราวระหว่างทางมากกว่า มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน แต่ Moment ที่เดินถึง tea house และได้นั่งพูดคุย สนุกสนานเฮฮา กับเพื่อนร่วมทริปทุกคนในทุกๆ วัน ก็เป็นความประทับใจ เป็นแรง support อย่างดีที่ได้จากเพื่อนทุกคน

ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ Credit: นรากร สงเนียม

สุดท้ายนี้ คุณแจ้อยากฝากคำแนะนำถึงคนที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์ผ่านเส้นทางนี้ว่า

แนะนำให้ไปกับกรุปทัวร์ มี local guide มี porter เพราะว่าเกิดอะไรขึ้นเรามีคนพื้นที่ ที่ช่วยเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อ ที่พัก เรียกม้า เรียก helicopter หรือแม้กระทั่งการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะระหว่างทางมี 2 ครั้ง ที่เห็นคนเป็น altitude sickness ล้มลงไปนอนกลางทาง ที่ความสูง 5000 กว่าเมตร
แนะนำให้เตรียมร่างกายให้พร้อม เพื่อที่จะได้เดินสนุก และ มีแรงที่จะ enjoy กับวิวทิวทัศน์ข้างทาง
แนะนำให้หาข้อมูลเบื้องต้น เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม อาหาร ยา เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่จะต้องเจอในแต่ละวัน

กด ▶ เพื่อฟังพอดคาสต์