ในวันนี้ (อังคาร) รัฐบาลมอร์ริสัน จะแถลงมาตรการที่ได้ให้สัญญาไว้มานาน เกี่ยวกับการปฏิรูประบบวีซ่าของออสเตรเลีย ที่จะเริ่มทำตามแผนการผลักดันให้ผู้อพยพย้ายถิ่นต้องไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของออสเตรเลียเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะสามารถย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ อย่างซิดนีย์ หรือเมลเบิร์น ได้
แผนการดังกล่าวที่ได้รับการผลักดันจากพรรคเนชันแนลส์ และกลุ่มล็อบบีหลักๆ เช่น สมาพันธ์เกษตรกรนั้น เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของรัฐบาล ที่จะแก้ปัญหาความคับคั่งของประชากรในนครหลวงต่างๆ ของประเทศ ขณะที่สามารถกระตุ้นการเติบโตของพื้นที่ส่วนภูมิภาค ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน
นายอลัน ทัดจ์ รัฐมนตรีคนใหม่ด้านประชากรและเมืองใหญ่ ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน จะแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการที่ว่านี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์ ที่เมลเบิร์น ในช่วงบ่ายวันนี้ (อังคาร)
วีซ่าสำหรับการไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้น สามารถชักจูงใจผู้อพยพใหม่ให้ไปตั้งถิ่นฐานที่นั่นเพียงแค่ 5,000 คนเท่านั้น จากจำนวนโควตาการรับผู้อพยพย้ายถิ่นประจำปี ที่จำกัดอยู่ที่ 190,000 คนต่อปี
ขณะที่มาตรการใหม่จะพุ่งเป้าสูงกว่านั้น และอาจผลักดันให้ประชาชนที่เข้าในโครงการการรับผู้อพยพย้ายถิ่นกว่าครึ่งหนึ่งต้องไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค
นายทัดจ์ กล่าวว่า มาตรการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อพยพร้อยละ 25 ที่เข้ามาทำงานโดยมีนายจ้างเป็นสปอนเซอร์ให้ หรือจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อพยพอีกร้อยละ 30 ที่เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย โดยติดตามคู่สมรส หรือมาอาศัยอยู่กับครอบครัว ที่อยู่ในออสเตรเลียอยู่แล้ว
“แต่มีราวร้อยละ 45 ของวีซ่าของเรา ที่ไม่ยึดติดกับพื้นที่ทางภูมิศาสตร์เช่นนั้น ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะให้เครื่องจูงใจและการสนับสนุนให้ไปอาศัยอยู่ในที่อื่นๆ” นายทัดจ์ บอกกับ เอบีซี ก่อนการแถลง
วีซ่าดังกล่าว อาจกำหนดให้ผู้อพยพย้ายถิ่นต้องอาศัยอยู่นอกเมืองใหญ่ จนถึง 5 ปี โดยใช้ “การผสมผสานกันของข้อกำหนดกับการสนับสนุน”
นายกรัฐมนตรีไม่ได้ระบุถึงบทลงโทษสำหรับผู้อพยพพที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามเงื่อนไขวีซ่าใหม่นี้
Prime Minister Scott Morrison. Source: AAP
“เกือบทุกวีซ่ามีเงื่อนไขบางอย่างกำหนดไว้” เขากล่าว
ข้อเสนอของรัฐบาลนี้เกี่ยวข้องกับวีซ่าทักษะ แต่นายทัดจ์กล่าวด้วยว่า กำลังมีการอภิปรายกันต่อเนื่องเกี่ยวกับการย้ายผู้ลี้ภัย ตามโครงการด้านมนุษยธรรม มากขึ้นให้ไปอยู่ในพื้นที่ชนบทด้วย
ผู้อพยพในส่วนภูมิภาค
ขณะนี้มีวีซ่าหลายประเภท ที่มุ่งจะนำผู้อพยพย้ายถิ่นให้ไปอาศัยอยู่ในชนบท แต่จากสถิติของกระทรวงมหาดไทย พบว่า มีผู้อพยพ 1 ใน 10 ที่มายังออสเตรเลียด้วยวีซ่าประเภทดังกล่าว เลือกย้ายไปอยู่ในเมืองใหญ่แทน ภายใน 18 เดือน หลังไปอยู่ในพื้นที่ชนบท
ออสเตรเลีย รับผู้อพยพที่มาด้วยวีซ่าทักษะ เพื่อมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ส่วนภูมิภาค 4,766 คน ในช่วงปี ค.ศ. 2016-2017 แต่ในจำนวนนั้นกว่าครึ่งหนึ่งเลือกอาศัยอยู่ในเพิร์ท เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รัฐบาลได้ตัดเพิร์ท ออกไปจากรายชื่อเมืองในพื้นที่ส่วนภูมิภาค ขณะที่ดาร์วิน แอดิเลด และโฮบาร์ต ยังคงจัดเป็นเมืองในส่วนภูมิภาคอยู่
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหพันธรัฐ จะร่วมกับรัฐบาลของรัฐและมณฑลต่างๆ วางแผนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และมีการควบคุมประชากร เพื่อลดความเสียหาย 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี จากการสูญเสียทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากความแออัดในเมืองใหญ่ จากข้อมูลของ ดิ ออสเตรเลียน
Minister for Human Services Alan Tudge. Source: AAP
แล้วอะไรคือจำนวนที่เหมาะสม
เมื่อถามว่าออสเตรเลียควรตั้งเป้าจำนวนประชากรไว้ที่เท่าใด นายทัดจ์ กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องกำหนด “จำนวนที่แน่ชัด” ไว้
เขากล่าวว่า จำเป็นต้องมีการควบคุมการเติบโตของประชากร และแย้มว่า จะมีการประกาศเกี่ยวกับเส้นทางรถไฟความเร็วสูงด้วยในช่วงต้นปีหน้า
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
จริงหรือไม่ที่ออสเตรเลียยังมีการเหยียดเชื้อชาติ
