ธุรกิจและลูกจ้างเผชิญความไม่แน่นอนหลังเงิน JobKeeper ยุติ

เงินจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ได้ยุติลงอย่างเป็นทางการแล้ว ส่งผลให้ธุรกิจหลายพันแห่งในออสเตรเลียและลูกจ้างหวั่นใจ ขณะผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีความช่วยเหลืออย่างตรงจุดให้แก่ภาคธุรกิจที่ยังคงต้องการการสนับสนุน

Kiff Saunders at Global Ballooning Australia

Kiff Saunders at Global Ballooning Australia says the end of JobKeeper if of huge concern to his business, which is running at around 35 per cent capacity. Source: Supplied

เศรษฐกิจออสเตรเลียอาจกระเตื้องขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ระหว่างการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยประชาชน 2.7 ล้านคนและธุรกิจ 680,000 แห่งสามารถยุติการรับเงินจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ได้

ขณะที่โครงการอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.) แต่ยังมีชาวออสเตรเลียมากถึง 960,000 คนและธุรกิจราว 370,000 แห่งที่ยังคงพึ่งพาเงินนี้ ต้องเผชิญกับอนาคตที่ไร้ความแน่นอน

โกลบอล บัลลูนนิง ออสเตรเลีย (Global Ballooning Australia) เป็นหนึ่งในบริษัทเหล่านั้น เมื่อออสเตรเลียปิดพรมแดนระหว่างประเทศเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว บริษัทสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศไปทั้งหมดชั่วข้ามคืน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 60 ของรายได้บริษัท หลังจากที่เลิกจ้างพนักงานไป 20 คน บริษัทได้ใช้เงินจ๊อบคีพเปอร์เพื่อช่วยให้ลูกจ้างที่ยังเหลืออยู่มีงานทำ

แต่หลังจากการล็อกดาวน์ที่ยาวนานของเมลเบิร์น การมีเชื้อโควิดปะทุขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาส จนมาถึงขณะนี้ที่เป็นช่วงที่ธุรกิจเงียบเหงาในฤดูหนาว คงจะยากลำบากที่บริษัทจะจ่ายค่าจ้างลูกจ้างได้เมื่อเงินจ๊อบคีพเปอร์สิ้นสุดลง

“แน่นอนว่า การสิ้นสุดลงของเงินจ๊อบคีพเปอร์จะสร้างความกดดันมากขึ้นให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศนี้” คุณคิฟฟ์ เซาน์เดอส์ (Kiff Saunders) ผู้อำนวยการบริษัทบอกกับเอสบีเอส นิวส์

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนไปอย่างมากกับตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศ แต่เมื่อยังไม่มีการระบุวันที่แน่ชัดว่าพรมแดนระหว่างประเทศจะเปิดเมื่อใด “เราก็ต้องฝ่าพายุนี้ไป” คุณเซาน์เดอส์ กล่าว

เลขาธิการกระทรวงการคลัง สตีเวน เคนเนดี แจ้งในการประชุมประมาณการงบประมาณของวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ประชาชนถึง 150,000 คนอาจตกงานหลังเงินจ๊อบคีพเปอร์ยุติลง

องค์กรการกุศลต่างๆ วิตกว่า ชาวออสเตรเลียจำนวนมากจะถูกบีบให้ต้องไปขอรับความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศลต่างๆ เป็นครั้งแรก

คุณแคลร์ วิกตอรี ประธานแห่งชาติของ เซนต์ วินเซนต์ เดอ พอล โซไซแอตที (St Vincent de Paul Society) บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า องค์กรเตรียมพร้อมรับมือกับ “ความต้องการความช่วยเหลือที่จะพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้” โดยคาดว่าจะมีชาวออสเตรเลียจำนวนมากไปรับเงินช่วยเหลือจากเซนเตอร์ลิงก์ (Centrelink) โดยเป็นผู้ที่ไม่เคยรับความช่วยเหลือนี้มาก่อน

“ในแต่ละช่วงที่เงินช่วยเหลือถูกลดลง เราได้เห็นความต้องการบริการจากเราที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย” คุณวิกตอรี กล่าว “ดังนั้นเมื่อเงินจ๊อบซีกเกอร์ลดจำนวนลงถึงต่ำสุดและเงินจ๊อบคีพเปอร์ยุติลงในเวลาเดียวกัน จะผลักดันให้คนจำนวนมากต้องรับเงินช่วยเหลือ เราจึงคาดว่าจะมีความต้องการบริการจากเราเพิ่มขึ้นด้วย”

“เราคาดว่าจะมีคนจำนวนมากจำเป็นต้องมาหาเราเพื่อขอความช่วยเหลือด้านอาหารและให้ช่วยจ่ายบิลต่างๆ ในแต่ละสัปดาห์”

สัญญาณที่ดี

นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังของสหพันธรัฐ กล่าวว่า “มีสัญญาณที่ทำให้รู้สึกมีกำลังใจทั่วทุกภาคธุรกิจ” และทั่วประเทศ ซึ่งทำให้รัฐบาลตัดสินใจยุติเงินจ๊อบคีพเปอร์ในวันที่ 28 มีนาคม

“มันได้บรรลุวัตถุประสงค์ของมันในการสนับสนุนธุรกิจต่างๆ และรักษาการจ้างงาน ซึ่งได้ช่วยคงความสัมพันธ์ด้านการจ้างงานและให้การสนับสนุนด้านรายได้ที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งทั่วเศรษฐกิจ” นายฟรายเดนเบิร์ก ระบุในคำแถลงเมื่อวันอาทิตย์

“เงินจ๊อบคีพเปอร์เป็นเส้นชูชีพทางเศรษฐกิจ ที่ได้ช่วยให้ธุรกิจนับล้านแห่งและชาวออสเตรเลีย 3.8 ล้านคนได้มีงานทำต่อไปในช่วงวิกฤตที่สุดของการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา”

ธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (The Reserve Bank) กล่าวว่า เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ได้ช่วยรักษาการจ้างงานกว่า 700,000 ตำแหน่ง ขณะที่จำนวนการเลิกจ้างอย่างเป็นทางการคาดว่าอยู่ระหว่าง 100,000-150,000 ตำแหน่ง

อัตราการว่างงานขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 5.8
สถิติล่าสุดจากสำนักงานภาษีแห่งออสเตรเลีย (ATO) ชี้ว่า ลูกจ้าง 1.54 ล้านคนได้รับเงินจ๊อบคีพเปอร์ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2020 โดยลดลงจากเดิม 3.6 ล้านคนระหว่างเมษายน-กันยายน 2020

สถิติจากเอทีโอสำหรับแต่ละภาคธุรกิจค่อนข้างเป็นไปในแง่บวกเป็นส่วนใหญ่ จำนวนลูกจ้างที่รับเงินจ๊อบคีพเปอร์ในภาคธุรกิจค้าปลีกลดลงร้อยละ 68 การพึ่งพาเงินนี้ในภาคธุรกิจช่างและการก่อสร้างลดลงร้อยละ 65 และลดลงร้อยละ 71 ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคธุรกิจอาหารและที่พักอาศัยลดการพึ่งพาเงินอุดหนุนค่าจ้างลงร้อยละ 52

แต่ภาคอุตสาหกรรมการขนส่ง ไปรษณีย์ และโกดังสินค้า ยังคงประสบความยากลำบาก โดยผู้รับเงินจ๊อบคีพเปอร์ลดลงเพียงร้อยละ 36

แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีข้อมูลสำหรับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้ครอบคลุมเงินที่หลากหลายอย่างมาก

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่า อัตราการว่างงานไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นหลักเงินจ๊อบคีพเปอร์ยุติลง

นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวว่า ขณะที่ออสเตรเลียยังไม่ผ่านพ้นจากสถานการณ์โควิดระบาด แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเกือบถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ความช่วยเหลือที่ตรงจุด

คุณ เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าแผนกกลยุทธ์การลงทุนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัท เอเอ็มพี แคพิตอล (AMP Capital) บอกกับ เอสบีเอส นิวส์ ว่า “ช่วงเวลานี้นั้นเหมาะสม” ที่เงินจ๊อบคีพเปอร์จะยุติลง
“เราได้เห็นการฟื้นตัวที่ค่อนข้างดี หากเราไม่ได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ผมคงจะวิตกยิ่งกว่านี้มาก” คุณโอลิเวอร์ กล่าว

แต่เช่นเดียวกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เขาเรียกร้องให้มีความช่วยเหลือที่ตรงจุดมากขึ้น หลังเงินจ๊อบคีพเปอร์สิ้นสุดลงแล้ว

“เงินจ๊อบคีพเปอร์เป็นความช่วยเหลือที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ให้แก่ธุรกิจต่างๆ และมันเหมาะสมเมื่อปีที่แล้ว และมันได้ทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม แต่ด้วยเหตุผลเดียวกัน ขณะนี้ เรามาถึงสถานการณ์ที่ปัญหาอยู่ในอุตสาหกรรมบางภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการ และโดยเฉพาะธุรกิจในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD)”

“ผมจึงคิดว่า ความช่วยเหลือที่ต่อเนื่องเหล่านี้ควรพุ่งเป้าให้ตรงจุดมากขึ้น”

แต่อันตรายของการให้เงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุดคือ มันอาจส่งผลให้เกิด “การจ้างงานแบบผีดิบ (Zombie jobs)” และ “หยุดยั้งไม่ให้เศรษฐกิจฟื้นตัว”

“ในความเป็นจริงคือ งานเหล่านี้จำนวนมากได้ย้ายออกไปจากย่านตัวเมืองชั้นในและจากย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ไปสู่ย่านรอบนอกเมือง เนื่องจากเรามีผู้คนมากขึ้นที่ทำงานจากบ้าน นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นปรากฎการณ์ระยะยาว แต่หากเรายังคงอุดหนุนการจ้างงานในย่านธุรกิจใจกลางเมือง นั่นจะหยุดยั้งการปรับตัวในเศรษฐกิจ และหยุดยั้งไม่ให้งานเหล่านั้นย้ายออกไปยังย่านชานเมืองต่างๆ ” คุณโอลิเวอร์ กล่าว

นายแอนโทนี อัลบานีซี ผู้นำพรรคแรงงาน กล่าวว่า ขณะที่เงินจ๊อบคีพเปอร์ต้องยุติลง ณ จุดในจุดหนึ่ง แต่เขากล่าวว่า “คงไม่ฉลาด” ที่จะถอนความช่วยเหลือจากบางอุตสาหกรรมและบางธุรกิจที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา
คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

บริสเบนจะล็อกดาวน์ 3 วันเริ่มเย็นนี้


Share
Published 29 March 2021 12:36pm
Updated 12 August 2022 3:11pm
By Caroline Riches, Dom Vukovic
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends