ผู้เชี่ยวชาญย้ำชุดตรวจโควิดใช้การได้ แต่ใช่ว่าจะไม่มีการผิดพลาดเสียเลย

องค์กรสอดส่องดูแลผลิตภัณฑ์ยาของออสเตรเลียได้ทำการวิเคราะห์ชุดตรวจเชื้อโควิดด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็วต่างๆ เพื่อระบุชี้ว่าชุดตรวจโควิดด้วยตนเองเหล่านี้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหรือไม่

A woman prepares to give a young boy a nasal swab.

Rapid antigen tests (RATs) on sale in Australia have been tested to verify their effectiveness. Source: Getty / moisseyev

ประเด็นสำคัญ
  • ราว 1 ใน 3 ของชุดตรวจเชื้อโควิดด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็ว (RAT) ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดถูกตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน จากทีจีเอ (TGA)
  • ในขณะที่การทดสอบเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยากล่าวว่าชุดตรวจโควิดด้วยตนเองต่างๆ ยังคงมีปัญหาอยู่
  • การทดสอบเพิ่มเติมดังกล่าวดูประสิทธิภาพการตรวจเชื้อไวรัส -19 สายพันธุ์ดั้งเดิม เชื้อสายพันธุ์โอมิครอน และสายพันธุ์เดลตา
ในขณะที่ผู้คนในออสเตรเลียพบปะสังสรรค์กันกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงคริสต์มาสนี้ พร้อมกับที่คลื่นการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุดพุ่งถึงจุดสูงสุด ประสิทธิภาพของชุดตรวจเชื้อโควิดแบบทราบผลรวดเร็ว (RAT) ยังคงเป็นประเด็นที่มีการอภิปรายกันต่อเนื่อง

โควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสที่แตกต่างอย่างมาก จากตอนที่เชื้อนี้ถูกตรวจพบครั้งแรกในออสเตรเลียเมื่อกว่าสองปีก่อน และการตรวจเชื้อก็พัฒนาไปเช่นกัน

การวิเคราะห์ชุดตรวจโควิดด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็วราว 1 ใน 3 ของยี่ห้อต่างๆ ที่มีจำหน่ายในออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่าชุดตรวจโควิดด้วยตนเองทั้งหมด 23 ชุด (จาก 20 ยี่ห้อ) สามารถตรวจหาไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิมได้ รวมทั้งสายพันธุ์เดลตาและโอมิครอน

ขณะที่มีเชื้อกลายพันธุ์อุบัติขึ้น ผู้ผลิตจึงควรต้องทำการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบว่าชุดตรวจเชื้อโควิดด้วยตนเองของพวกเขายังคงมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์
A woman using a nasal swab to carry out a COVID-19 rapid antigen test on a young boy.
Professor Bennett (not pictured) suggests carrying out more than one RAT test if the first is negative and you have symptoms. Source: Getty / moisseyev
อีกทั้งยังมีมาตรการเพิ่มเติมจากคณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (Australia's Therapeutic Goods Administration หรือ TGA) ที่ได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบคำกล่าวอ้างของผู้ผลิต

นอกจากนี้ ทีจีเอยังพิจารณาด้วยว่า ชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็วเหล่านั้นได้มาตรฐานตามข้อกำหนดขั้นต่ำด้านความไวต่อเชื้อ ขององค์การอนามัยโลก (WHO) หรือไม่

ศาสตราจารย์แคทเธอรีน เบ็นเนตต์ ผู้เชี่ยวชาญและประธานด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยดีคิน (Deakin University) กล่าวว่า "เป็นทิศทางที่ดี" ที่ชุดตรวจเชื้อโควิดด้วยตนเองเหล่านั้น มีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดทั้งหมด แต่ใช่ว่าชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองเหล่านี้จะไม่มีข้อผิดพลาดเลยในการระบุชี้การติดเชื้อโควิด-19

เธอกล่าวว่า การวิจัยพบว่าจากข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลกนั้น อัตราการตรวจพบเชื้อขั้นต่ำอยู่ระหว่าง 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ติดเชื้อที่ระบุได้อย่างถูกต้องทั้งหมด

“ยังมีความเป็นไปได้ที่จะพบผลลบปลอม (false negative)” ศาสตราจารย์เบ็นเนตต์กล่าว
A woman wearing glasses.
ศ.แคทเธอรีน เบ็นเนตต์ ผู้เชี่ยวชาญและประธานด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยดีคิน Source: Supplied
ศาสตราจารย์เบ็นเนตต์เคยกล่าวไว้ว่า ตัวแปรอื่นๆ เช่น บุคคลนั้นปฏิบัติตามคำแนะนำในการตรวจเชื้ออย่างถูกต้องหรือไม่ หรือจัดเก็บชุดตรวจเชื้ออย่างถูกต้องหรือไม่นั้น ทำให้ผลที่ได้รับจากชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองมีความแม่นยำลดลงไปอีก

ในขณะที่เธอสนับสนุนให้ผู้คนใช้ชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองเป็นเครื่องบ่งชี้ และแนะนำให้ตรวจเชื้อซ้ำเป็นครั้งที่สองหากผลการตรวจครั้งแรกเป็นลบ แต่ประชาชนก็ควรตรวจเชื้อซ้ำอีกในวันต่อมา หากยังคงมีอาการอยู่หลังจากวันที่พบผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

"อาการนั้นสำคัญกว่าการพบผลการตรวจเป็นลบจากชุดตรวจเชื้อด้วยตนเอง" ศ.เบ็นเนตต์ กล่าว
อาการนั้นสำคัญกว่าการพบผลการตรวจเป็นลบจากชุดตรวจเชื้อด้วยตนเอง ศ.เบ็นเนตต์
ศ.แคทเธอรีน เบ็นเนตต์
เธอกล่าวต่อไปว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์ย่อยต่างๆ ที่กำลังแพร่กระจายในออสเตรเลียในปัจจุบันล้วนเป็นเชื้อกลายพันธุ์ของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)

ศ.เบ็นเนตต์ยังชี้ว่า เนื่องจากเชื้อไวรัสที่สืบสายพันธุ์มาจากเชื้อโอมิครอนมักแสดงตัวผ่านอาการเจ็บคอ การเก็บตัวอย่างเชื้อจากน้ำลายจึงอาจเพิ่มที่จะพบเชื้อได้มากกว่าตัวอย่างเชื้อที่เก็บจากในช่องจมูก ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับสายพันธุ์ที่มักมีอาการน้ำมูกไหลเป็นสัญญาณแรกของการติดเชื้อ
การตรวจประสิทธิภาพของชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองแบบทราบผลรวดเร็ว ที่ดำเนินการภายใต้คำสั่งจากทีจีเอนั้น ได้พบชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองล็อตหนึ่งจากผู้ผลิตรายหนึ่ง ที่ได้มาตรฐานด้านความไวของเชื้อตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ แต่ไม่ได้มาตรฐานในด้านคุณภาพของอุปกรณ์

ทีจีเอกล่าวว่า สถาบันโดเฮอร์ตี (Doherty) ในเมลเบิร์นและห้องปฏิบัติการ National Serology Reference Laboratory ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการทดสอบ กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างรวดเร็วที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่า ทีจีเอจะสามารถให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของชุดตรวจเชื้อด้วยตนเองเหล่านี้"

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 


Share
Published 23 December 2022 1:15pm
By Aleisha Orr
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS


Share this with family and friends