รัฐบาลเผยจะปรับปรุง MyGov เพื่อให้บริการ 110 ภาษา

myGov Website

Source: www.my.gov.au

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียให้คำมั่น จะปรับปรุงระบบสวัสดิการสังคมให้ไม่ซับซ้อนและเข้าใจสถานการณ์ของผู้คนมากขึ้น ชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่น จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ซึ่งจะรวมไปถึงการให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลในภาษาต่างๆ นอกเหนือจากภาษาอังกฤษ


รัฐบาลสหพันธรัฐของออสเตรเลียเผยวิสัยทัศน์ ที่จะให้ระบบสวัสดิการสังคมแห่งชาติ ไม่ซับซ้อนและเข้าใจในสถานการณ์ของผู้คนมากกว่าเดิม  


นายสจ๊วร์ต โรเบิร์ต รัฐมนตรีด้านบริการรัฐบาล กล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวแห่งชาติว่า รัฐบาลได้เปิดตัว MyGov เวอร์ชันใหม่ 


MyGov เป็นบริการดิจิทัลและเป็นเว็บท่าให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการจากหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลที่เข้าร่วมได้ 


ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ MyGov จะถูกปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้นและถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นศูนย์กลางสำหรับบริการจากรัฐบาลสู่ผู้ใช้บริการ 


นายโรเบิร์ต กล่าวว่า MyGov จะให้บริการเป็นภาษาต่างๆ 110 ภาษาด้วย 

“ในอดีตคุณไม่มีทางเลือก คุณต้องไปยังเซนเตอร์ลิงค์ ที่ทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่เราเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สิ่งที่เรากำลังสร้างคือแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่จะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมให้ผู้ใช้บริการ” 

“หากคุณมีภูมิหลังจากชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรม หรือคนที่มาจากชุมชนชาวพื้นเมืองที่ห่างไกล คุณจะสามารถไปยังสิ่งที่จะมาแทนที่ MyGov จากนั้นไปยังส่วนที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการส่วนตัวของคุณได้ และตรวจดูเงินสวัสดิการและการเคลมต่างๆ ของคุณ คุณจะสามารถขอเคลมเงินออนไลน์ได้ จะสามารถตรวจดูว่าทุกสิ่งดำเนินการไปถึงไหน และจะสามารถทำได้เป็นภาษาต่างๆ 110 ภาษา” นายสจ๊วร์ต โรเบิร์ต รัฐมนตรีด้านบริการรัฐบาล เผย

MyGov ถูกเปิดตัวและนำมาใช้งานครั้งแรกในปี 2013 โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บุคคลธรรมดา สามารถเข้าถึงบริการหลากหลายจากรัฐบาลได้ด้วยระบบออนไลน์ที่มีความปลอดภัย โดยเป็นระบบที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว 


นายโรเบิร์ต กล่าวว่า บริการใหม่นี้จะนำเสนอประสบการณ์ผู้ใช้งานที่สามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการส่วนตัวของผู้ใช้งานได้ และรวบรวมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งานแต่ละคนมานำเสนอ 

“นี่เป็นก้าวแรกที่จะให้บริการ ให้ข้อมูล และให้การสนับสนุนแก่ชุมชนต่างๆ อย่างถึงที่และเป็นภาษาของพวกเขาเอง มันเป็นการบอกว่า เราเคารพในเวลาของคุณ เราเคารพภาษาของคุณ และเราเคารพว่าคุณอาจไม่สามารถไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่หากคุณไปยังศูนย์บริการของเรา ศูนย์เหล่านี้จะพร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่ซับซ้อนกว่า และสามารถให้เวลามากขึ้นกับคุณได้ เพราะพวกเราจะมีศักยภาพที่จะทำได้มากขึ้นอย่างมาก” นายโรเบิร์ต กล่าว

จากอนาคตของเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) ที่ยังคงไม่แน่นอนว่าจะมีอยู่หลังเดือนกันยายนของปีนี้หรือไม่ รัฐมนตรีด้านบริการรัฐบาล เตรียมพร้อมรับมือกับการโทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือจากชุมชนต่างๆ ทั้งหมดที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้น

“แน่นอนทีเดียวว่าพวกเรากำลังเตรียมรับมือ ชาวออสเตรเลีย 1.6 ล้านคนกำลังได้รับเงินนี้ เมื่อเงินอุดหนุนค่าจ้างจ๊อบคีพเปอร์ (JobKeeper) เริ่มยุติลงอย่างช้าๆ เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการที่ชาวออสเตรเลียมากขึ้นจะมารับเงินสวัสดิการ หากพวกเขาไม่มาขอรับ ก็ดีเยี่ยม แต่ประเทศจำเป็นต้องทำให้มั่นใจได้ว่า เรามีศักยภาพทั้งด้านกำลังคนและทรัพยากรที่จะรับมือ หากความต้องการใช้บริการของเราพุ่งสูงขึ้น” นายโรเบิร์ต ระบุ 

ด้านนางคริสตินา คีนีลลี โฆษกด้านกิจการมหาดไทยของพรรคแรงงานสหพันธรัฐ กล่าวโต้ตอบในประเด็นนี้ว่า ความพยายามของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ได้มองดูสภาพความเป็นจริง

“มันเป็นก้าวย่างไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่การคิดว่าชุมชนหลากภาษาและวัฒนธรรมจะล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์รัฐบาลเป็นความหวังอันสูงสุดมากกว่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ความเป็นจริงคือ รัฐบาลจำเป็นต้องลงทุนในเครือข่ายชุมชนท้องถิ่น เพื่อพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า พวกเขาสามารถกระจายข้อมูลที่เชื่อถือได้ไปยังชุมชนของพวกเขา ให้ข้อมูลในรูปแบบที่ผู้คนอ่านกันจริงๆ นั่นสำคัญมาก มันดีเยี่ยมที่จะมีข้อมูลแปลเป็นภาษาต่างๆ บนเว็บไซต์ของรัฐบาล แต่การคิดว่าผู้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต จะสามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ด้วยวิธีใดวิธีการหนึ่ง อาจเป็นการพึ่งโชคชะตาเสียมากกว่า” นางคีนีลลี กล่าว

พรรคแรงงาน เรียกร้องให้รัฐบาลให้เงินทุน 500,000 ดอลลาร์เพื่อรณรงค์เรื่องการสื่อสารที่ดีขึ้นแก่ผู้อพยพย้ายถิ่นในช่วงการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโคโรนา

วุฒิสมาชิกคีนีลลี และนายแอนดรูว์ ไจลส์ สส. สหพันธรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลให้เงินทุนด้านการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 สำหรับชุมชนผู้อพยพย้ายถิ่น จะได้มีการสร้างเครือข่ายและสื่อสารข้อมูลที่สำคัญแก่ชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"รัฐบาลมอร์ริสันได้ทิ้งผู้คนไว้เบื้องหลัง รัฐบาลล้มเหลวในการให้ข้อมูลเป็นภาษาชุมชน ล้มเหลวในการให้ข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่ายและด้วยวิธีการที่ผู้คนเชื่อถือแก่ชุมชนที่เพิ่งผุดขึ้นมาใหม่ในประเทศ และด้วยเงินก้อนเล็กๆ รัฐบาลอาจสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในการพยายามทำให้แน่ใจได้ว่า ชาวออสเตรเลียทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นเพอย่างไร ได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา" นางคีนีลลี แสดงความเห็น

นายแพทย์ จามาล รีฟี เป็นผู้นำชุมชนที่เป็นผู้รู้จักผู้หนึ่งและยังเป็นแพทย์ทั่วไป ซึ่งอยู่แถวหน้าในการรับมือกับเชื้อโควิด-19

เขากล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นมีบทบาทสำคัญในการหยุดยั้งการระบาดของเชื้อโควิด-19 ดังนั้น การแจ้งข้อมูลด้านสาธารณสุขและให้คำแนะนำแก่พวกเขาในวิธีที่พวกเขาเข้าใจได้ง่าย จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

"รัฐบาลจะต้องรับคำแนะนำเหล่านี้ไปปฏิบัติ พวกเรากำลังต้องการอย่างมาก ที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและทันท่วงที เข้าไปถึงยังส่วนใหญ่ของผู้คนในออสเตรเลียที่มีพื้นเพหลากภาษาและวัฒนธรรม" นพ.รีฟี กล่าว


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 



Share