Explainer

โครงการ Medicare โฉมใหม่แตกต่างจากเดิมอย่างไร

นอกจากโครงการ MyMedicare จะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการให้คำปรึกษาสุขภาพทางไกลได้อย่างต่อเนื่องแล้วโครงการนี้มีข้อดีอะไรอีกบ้าง

A zoomed in Medicare card is pictured.

โครงการ MyMedicare นี้จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและใช้เวลาสามปีจึงจะครอบคลุมทั่วออสเตรเลีย Source: AAP

ประเด็นสำคัญ
  • MyMedicare เป็นโครงการที่ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนใช้ตามความสมัครใจและเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับผลลัพธ์ทางด้านสาธารสุขโดยรวม
  • โครงการนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถลงทะเบียนกับแพทย์จีพี (GP) และเข้าถึงการปรึกษาด้านสุขภาพทางไกลได้ต่อเนื่อง
  • โครงการนี้จะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและใช้เวลาสามปีจึงจะครอบคลุมทั่วออสเตรเลีย
MyMedicare เป็นโครงการใหม่ที่ให้ผู้ลงทะเบียนโดยความสมัครใจ โดยที่โครงการนี้จะสามารถทำให้ผู้ป่วยลงทะเบียนกับแพทย์จีพีของตนโดยที่มีเป้าหมายที่จะทำให้แพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยรายนั้นๆ ได้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ด้านสุขภาพโดยรวม

โครงการนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ศกนี้ ซึ่งมีผลทำให้ผู้ป่วยที่ลงทะเบียนสามารถเข้าถึงการให้คำปรึกษาทางไกลจากแพทย์ได้ยาวนานต่อเนื่องมากขึ้น

และภายในปีหน้าคลินิกแพทย์จีพีที่มีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลบ่อยครั้งหรือเป็นผู้พักอาศัยในสถานดูแลผู้สูงอายุจะสามารถเข้าถึงเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแบบ "ผสมผสาน" ซึ่งอยู่นอกเหนือค่าธรรมเนียมการบริการตามปกติของเมดิแคร์

 โครงการ MyMedicare นี้ ได้รับการประกาศในร่างงบประมาณเดือนพฤษภาคม ด้วยเงินอุดหนุนจำนวน 19.7 ล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลาสี่ปี ควบคู่ไปกับการปฏิรูปสุขภาพอีกหลายด้าน รวมถึงงบประมาณเพื่อปรับปรุงการดูแลแบบเป็นทีมสำหรับพยาบาลวิชาชีพ ตลอดจนสิ่งจูงใจใหม่ ๆ สำหรับการเพิ่มการใช้บริการ บัลค์ บิลลิ่ง (bulk billing) หรือ ค่าบริการทางการแพทย์ฟรีจากรัฐบาล

 อย่างไรก็ตามยังจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้มากขึ้นต่อไปในอนาคต

MyMedicare โฉมใหม่มีข้อดีกับบุคลากรทางการแพทย์อย่างไร

โครงการนี้เป็นโครงการที่สามารถลงทะเบียนโดยความสมัครใจทั้งแพทย์และผู้ป่วย นอกจากผู้ป่วยจะต้องสมัครลงทะเบียนแล้ว แพทย์จีพีก็ต้องลงทะเบียนเพื่อให้บริการด้วย ซึ่งการลงทะเบียนนี้สามารถทำได้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปและใช้เวลาประมาณสามปีจึงจะครอบคลุมทั่วออสเตรเลีย

 แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันในรายละเอียด แต่ข้อมูลคร่าวๆ ชี้ว่าตั้งแต่กลางปี 2024 แพทย์จีพีแต่ละคนจะได้รับเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมากกว่า 10 ครั้งต่อปี และแพทย์จีพีที่ลงทะเบียนกับโครงการนี้อาจจะได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 2,000 ดอลลาร์ต่อผู้ป่วยต่อปี และได้รับโบนัส 500 ดอลลาร์สำหรับการรักษาผู้ป่วยนอกโรงพยาบาล

เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้มีแนวโน้มที่มีปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อน และด้วยเหตุผลหลายประการ อาจไม่สามารถเข้าถึงการบริการของแพทย์จีพีได้ไม่บ่อยครั้งเท่าที่ควร

 
ซึ่งเงินอุดหนุนนี้เป็นการสร้างแรงจูงใจให้แพทย์จีพี ในการประสานงานการดูแลผู้ป่วยให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและได้รับคำปรึกษาจากบุคลาการด้านการแพทย์หากจำเป็น

โครงการนี้มุ่งหวังที่จะทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องไปโรงพยาบาลบ่อยๆ นอกจากนี้เงินอุดหนุนนี้ยังช่วยให้แพทย์สามารถไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในสถานดูแลผู้สูงอายุที่พักอาศัยได้เป็นประจำอีกด้วย

MyMedicare มีประโยชน์กับผู้ป่วยอย่างไร?

 ข้อดีของโครงการนี้มีปัจจัยหลัก 4 ประการคือ

1 ด้านความต่อเนื่องของการดูแล

จากการวิจัยพบว่าโครงการ MyMedicare แสดงให้เห็นถึงว่ามีความต่อเนื่องของการดูแลมากขึ้น จะให้ได้จากมีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์หรือทีมการดูแลสุขภาพที่เป็นทีมเดิม เพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ทางสุขภาพของผู้ป่วยและลดค่าใช้จ่ายในระบบสุขภาพ

ผู้ที่ใช้บริการ MyMedicare เพื่อจะพบแพทย์ประจำตัวคนเดิมอาจสังเกตเห็นถึงประโยชน์เหล่านี้ แต่สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังซึ่งต้องพบแพทย์หรือพยาบาลคนเดิมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว อาจไม่เห็นความแตกต่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจนเท่าไหร่นัก


2 ลดการเข้าโรงพยาบาล

การไปโรงพยาบาลไม่มีความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านอาจจะ ไม่สะดวกสำหรับคุณและญาติ เพราะว่ามีความเป็นส่วนตัวน้อย และอาจมีค่าใช้จ่ายสูง

 การเข้าถึงแพทย์จีพีที่สะดวกขึ้น สำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่ 10 ครั้งต่อปีขึ้นไปเนื่องจากโรคเรื้อรังที่มีอาการซับซ้อนหรือเป็นประชากรกลุ่มเสี่ยง

 อาจทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องเข้าแผนกฉุกเฉินหรือป้องกันการนอนโรงพยาบาลข้ามคืนได้ จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการมีสิ่งจูงใจด้านการเงินสำหรับแพทย์จีพี จะทำให้บุคลาการทางการแพทย์ติดตามการรักษาโรคเรื้อรังได้ดีขึ้นและสามารถลดการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของผู้ป่วยได้

 อย่างไรก็ตามสถิติการรับเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอาจเพิ่มขึ้นได้หากโครงการนี้สามารถทำให้แพทย์รักษาผู้ป่วยรายใหม่ที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยโรคอย่างถ้วนถี่ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ได้

 
Ambulances parked at a hospital.
ข้อดีในการเข้าพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังสามารถลดอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ Source: AAP / Darren Pateman

3 ลดอุปสรรคในการดูแล

โครงการ MyMedicare ยังไม่ได้กล่าวถึงอุปสรรคด้านต่างๆ ในการเข้าถึงบริการแพทย์จีพี เช่นเรื่องที่ ผู้ป่วย ที่ลงทะเบียนกับMyMedicare จะได้สิทธิรับการรักษาฟรีหรือไม่หากแพทย์จีพีได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลมากขึ้นและยังคงได้รับค่าธรรมเนียมสำหรับบริการแบบเดิมด้วย

ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรังจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าผู้ป่วยโรคทั่วไปถึง 2-3 เท่า และร้อยละ 30 ของผู้ป่วยโรคเรื้อรังพบว่ามีอุปสรรคด้านชำระค่ารักษาพยาบาลหากป่วยหนัก

จุดอ่อนคือ MyMedicare จะไม่ลดค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยต้องชำระในการรักษาพยาบาล ซึ่งนี่อาจเป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมผู้คนต้องไปแผนกฉุกเฉินเพื่อเข้าการรักษา "ฟรี"

4 ทำให้ชัดเจนและง่ายต่อการสมัคร

ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่ากระบวนการลงทะเบียนสำหรับผู้ป่วยจะเป็นอย่างไร ผู้ป่วยจะมีทางเลือกในการรักษากับแพทย์จีพีคนอื่นหรือไม่ และเมื่อเลือกแพทย์จีพีไปแล้ว แพทย์จีพีคนนั้นจะต้องตกลงรับการรักษาหรือไม่

และในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่ผู้ป่วยต้องจ่ายเองและการประเมินคุณภาพการดูแลของแพทย์จีพีที่แตกต่างกัน ดังนั้นผูั้ป่วยจึงไม่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจจะเลือกรักษากับแพทย์จีพีคนใดคนหนึ่ง

A female doctor talks with a female patient in the clinic. Both women are seated across a table, facing each other as they converse.
MyMedicare เป็นโครงการใหม่ที่ให้ผู้ลงทะเบียนโดยความสมัครใจทั้งผู้ป่วยและแพทย์ Source: Getty / Morsa Images
ข้อมูลเพื่อแจ้งทางเลือกของแพทย์จีพี เช่นเดียวกับกรณีของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบนเว็บไซต์จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยเพื่อประกอบการตัดสินใจของพวกเขา

และยังไม่ชัดเจนว่าผู้ป่วยที่เลือกลงทะเบียนจะสามารถเลือกไปรักษากับแพทย์คนใหม่ได้ไหมอย่างไร แต่ข้อดีของการลงทะเบียนผู้ป่วยของ MyMedicare คือเมื่อลงทะเบียนแล้วพวกเขาจะได้รับการช่วยเหลือในการหาข้อมูลที่จำเป็น

โครงการนี้สร้างความแตกต่างอย่างไรกับแพทย์จีพี?

จำนวนการลงทะเบียนผู้ป่วยอาจหมายถึงการสามารถคาดการณ์รายได้ในอนาคตสำหรับผู้ป่วยบางราย และการแข่งขันที่น้อยลง (ในแง่ของการ "สูญเสีย" ผู้ป่วยให้กับแพทย์จีพีคนอื่น) และความต่อเนื่องในการดูแลที่มากขึ้น

การเปลี่ยนจากการคิดค่าบริการการรักษาไปสู่รูปแบบการชำระเงินแบบผสมผสาน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นระบบที่สนับสนุนการดูแลสุขภาพที่ดีกว่า

แต่การเปลี่ยนจากค่าบริการเป็นการจ่ายตามความสามารถก็มีผลการะทบต่อแพทย์จีพีบางประการ เนื่องจากแพทย์จะรับความเสี่ยงทางการเงินมากขึ้นหากมีผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาและใช้เวลารักษายาวนานและซับซ้อนกว่า

 และในขณะนี้แม้ว่าจะไม่ทราบแน่ชัดว่าเงินจูงใจ2,000 ดอลลาร์ บวกโบนัส 500 ดอลลาร์ บวกค่าธรรมเนียมปกติสำหรับการชำระค่าบริการให้แพทย์จีพีเพื่อลงทะเบียนกับ MyMedicareจะเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยที่มีความซับซ้อนมากหรือไม่

 แต่โดยทั่วไปแล้ว โครงการMyMedicare จะทำให้แพทย์จีพีได้รับเงินมากขึ้น และการดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ ก็จะได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนจำนวนมากด้วย


ในตอนนี้ที่มีการขาดแคลนแพทย์จีพีอย่างมาก จากการวิจัยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า รายได้ของแพทย์จีพีที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ช่วยทำให้ลดการขาดแคลนแพทย์ไปได้ ร้อยละ 1(เทียบเท่ากับแพทย์จีพีจำนวน 310 คนในปี 2021) การเพิ่มรายได้ที่จูงใจในโครงการนี้อาจทำให้มีแพทย์ระดับบัณฑิตศึกษาเลือกเป็นแพทย์จีพีมากขึ้น

การลงทะเบียนผู้ป่วยโดยความสมัครใจภายใต้โครงการ MyMedicare มีศักยภาพในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์จีพี ของพวกเขา และมุ่งเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในการดูแลผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุด้วย อย่างไรก็ตามเราจะต้องมีการประเมินที่เหมาะสมเพื่อพิจารณาผลกระทบต่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพ ค่าใช้จ่าย และการเข้าถึงการดูแลสุขภาพโดยรวมด้วย

ศาสตราจารย์ แอนโทนี สก็อต เป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์สุขภาพที่ Monash University เขาได้รับเงินสนับสนุนจาก Australian Research Council, Medibank Better Health Foundation และ Independent Hospital and Aged Care Pricing Authority


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 



บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 



Share
Published 19 July 2023 1:09pm
Updated 19 July 2023 4:07pm
By Anthony Scott
Source: The Conversation


Share this with family and friends