2 ชั่วโมง 30 นาที คือความแตกต่าง ระหว่างการได้กลับบ้านมาหาครอบครัวในออสเตรเลีย หรือต้องเผชิญความยากลำบากอย่างไม่มีกำหนดในต่างแดน ของ อูรูจ อูซมาน (Urooj Usman)
คุณแม่ลูกสองคนนี้อยู่กับ เดนิช โกรี (Danish Ghori) สามีของเธอ ในเมืองพาเคนแนม (Pakenham) รัฐวิกตอเรีย บนวีซ่าแรงงานอพยพย้ายถิ่นแบบมีทักษะ (Skilled migrant visa) เป็นเวลาเกือบ 4 ปี ทั้งคู่เช่าบ้านอยู่ที่นั่น และคุณโกรีทำงานอยู่ในแวดวงโทรคมนาคม
26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอเดินทางกลับไปประเทศปากีสถาน พร้อมลูก ๆ สองคน ซารา (1 ขวบ) และมูฮัมเม็ด (2 ขวบ) เพื่อไปเยี่ยมพ่อของเธอ ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะลุกลาม ส่วนสามีของเธอนั้นยังคงอยู่ในออสเตรเลีย
เมื่อ นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะปิดพรมแดน และอนุญาตให้พลเมืองและผู้อาศัยถาวร (พีอาร์) พร้อมสมาชิกครอบครัวใกล้ชิดเท่านั้น ที่จะสามารถเดินทางกลับเข้ามาได้ เธอรีบซื้อตั๋วเครื่องบินอย่างเร็วที่สุด เพื่อกลับมายังออสเตรเลียให้ทันเวลา
แต่เที่ยวบินแรกของเธอจากปากีสถาน ล่าช้ากว่าเวลากำหนดเดินทางไป 2 ชั่วโมง 30 นาที ทำให้เธอพลาดต่อเครื่องบินอีกเที่ยวเพื่อเดินทางกลับมา
เธอไม่เหลือหนทางใดที่จะมาถึงออสเตรเลียทันเวลา 21:00 น. ของวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งเป็นเวลาที่ออสเตรเลียปิดพรมแดนอย่างไม่มีกำหนดจนถึงขณะนี้
“มันคือ 2 ชั่วโมงที่ทำให้อนาคตฉันพังพินาศ” คุณอูซมานเล่า จากเมืองไฮเดอราบัด ประเทศปากีสถาน ที่ซึ่งเธอพร้อมกับลูก ๆ สองคน ติดค้างอยู่
The family communicate via video chat. Source: Supplied
“สิ่งแรกที่ลูกสาวฉันพูดตอนตื่นขึ้นมา คือ บาบา บาบา เธอเรียกหาพ่อ ลูกชายของฉันเริ่มร้องไห้เมื่อเขาเห็นหน้าพ่อบนจอโทรศัพท์ และสำหรับฉัน สามีของฉันคือทุกสิ่งทุกอย่าง”
คุณอูซมาน เป็นหนึ่งในผู้ถือวีซ่าชั่วคราวออสเตรเลียหลายร้อยคน ซึ่งรวมถึงวีซ่าแรงงานมีทักษะ นักศึกษาต่างชาติ และวีซ่าเวิร์กกิงฮอลิเดย์ ที่ติดค้างอยู่ในต่างประเทศ หลังรัฐบาลออสเตรเลียประกาศห้ามเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อระงับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ขณะที่บรรดาธุรกิจห้างร้านเริ่มทยอยเปิดให้บริการ มีเสียงเรียกร้องเพื่อให้รัฐบาลยกเว้นการเดินทางกลับมายังออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น
นายนิค แม็กคิม (Nick McKim) วุฒิสมาชิกจากพรรคกรีนส์ ได้ทำหนังสือไปยัง นายอลัน ทัดจ์ รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองของออสเตรเลีย เพื่อเรียกร้องให้มีการอนุญาต ให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวสามารถเดินทางกลับมายังออสเตรเลียได้ เช่นเดียวกับพลเมืองและผู้อาศัยถาวร (พีอาร์)
“ผู้คนเหล่านี้ถือวีซ่า 457 482 หรือวีซ่าทักษะ 489 พวกเขาทำงานและจ่ายภาษีให้กับออสเตรเลียมาเป็นเวลาหลายปี” ข้อความส่วนหนึ่งในหนังสือถึงรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองของนายแม็กคิม
นายแม็กคิม กล่าวอีกว่า ผู้คนบางส่วนถือวีซ่าบริดจิง ซึ่งไม่สามารถต่ออายุได้จากต่างประเทศ ทำให้ผู้ถือวีซ่าเหล่านี้กังวลว่า พวกเขาอาจไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมายังออสเตรเลียอีก
ทั้งนี้ รัฐบาลสหพันธรัฐระบุว่า การจำกัดห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ จะยังมีผลไปอย่างน้อย 3-4 เดือน
แม้ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจะพิจารณาเพื่ออนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติ สามารถเดินทางกลับมายังออสเตรเลียได้ แต่สำหรับผู้ถือวีซ่าชั่วคราวชนิดต่าง ๆ นั้น ยังคงไม่มีแผนดำเนินการในส่วนนี้จากรัฐบาล
จากการตั้งกระทู้ถามในประเด็นดังกล่าว รักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย กล่าวว่า เขากำลังมุ่ง “เพื่อทำให้พรมแดนของออสเตรเลียแข็งแกร่ง” แม้การรวมรายชื่อกว่า 11,700 รายชื่อจากประชาชน เพื่อเรียกร้องให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมายังออสเตรเลีย จะเข้าสู่สภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในตอนหนึ่งของหนังสือโดยนายแม็กคิม วุฒิสมาชิกพรรคกรีนส์ ยังได้เรียกร้องให้มีการเปิดเผยขอบข่ายการประเมินคำร้อง เพื่อยกเว้นการห้ามเดินทาง บนพื้นฐาน “ความเห็นอกเห็นใจ”
“อย่างน้อยที่สุด คำร้องในการขอยกเว้นการเดินทาง ควรมีการพิจารณาบนพื้นฐานของความจำเป็น และความเห็นอกเห็นใจ หากผู้ถือวีซ่าชั่วคราวมีบ้าน มีงาน หรือมีลูก ๆ ที่ต้องเดินทางกลับมาหาที่ออสเตรเลีย”
นางคริสตินา คีเนียลี (Kristina Keneally) โฆษกงานมหาดไทยจากพรรคแรงงาน ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาล “แสดงความเห็นใจ” และอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวที่มีถิ่นพำนักในออสเตรเลีย มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดการกักตัว และสามารถสนับสนุนตนเอง เพื่อให้ได้รับอนุญาตในการเดินทางกลับมายังออสเตรเลียได้
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 พ.ค.) กองกำลังพิทักษ์พรมแดนออสเตรเลีย ได้ประเมินคำร้องขอเดินทางมายังออสเตรเลียแล้ว 7,691 ฉบับ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เดินทางผ่านออสเตรเลียไปยังประเทศอื่นด้วย
นายไมเคิล โอแทรม (Michael Outram) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์พรมแดนออสเตรเลีย ได้กล่าวกับคณะกรรมการวุฒิสภา เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า แบบคำร้องยกเว้นการเดินทางจากกรณีความเห็นใจ 996 คำร้อง ได้รับการประเมินแล้ว และมี 801 คำร้องที่ได้รับการอนุมัติ
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ถือวีซ่าชั่วคราวเป็นจำนวนมากบอกว่า แบบคำร้องของพวกเขาถูกปฏิเสธ เช่นเดียวกับคุณอูซมา และลูก ๆ ของเธอ
กอนซาโล ซาบาเลตา (Gonzalo Zabaleta) ผู้อาศัยในออสเตรเลียเป็นเวลา 7 ปี บอกว่า เขารู้สึก “ตกใจ” ที่เห็นแบบคำร้องในการขอเดินทางกลับมายังออสเตรเลียถูกปฏิเสธถึงสองครั้ง แม้จะมีเอกสารจากนายจ้าง รวมถึงเอกสารจากผู้ปล่อยเช่าบ้าน ในการยืนยันว่าเขามีที่พำนักอยู่ในออสเตรเลีย
Colombian nationals Gonzalo Zabaleta and Luillya Carrero married in Australia and are now desperate to return to their home and careers in Sydney. Source: Supplied
คุณซาบาเลตา ซึ่งมีวีซ่าแรงงานทักษะชั่วคราวอย่างถูกต้อง ได้เดินทางกลับไปยังประเทศโคลัมเบีย กับ ลุยอิยา คาเรอโร (Luillya Carrero) ภรรยาของเขา เพื่อกลับไปหาครอบครัวเป็นครั้งแรกหลังย้ายมาอยู่ออสเตรเลีย ในวันที่ออสเตรเลียปิดพรมแดน
ทั้งสอง ซึ่งนายจ้างของพวกเขาหวังว่าจะกลับมาทำงานเต็มเวลาที่นครซิดนีย์ กำลังกลัวว่าความฝันในการได้สถานะประชากรถาวร (PR) จะพังลง
“เราไม่เคยคิดเลยว่าพวกเขาจะปิดพรมแดน ชีวิตเราเปลี่ยนไปตั้งแต่วันนั้น เราอยากกลับบ้านในออสเตรเลียมาก เรามีหน้าที่การงาน และก็มีค่าใช้จ่ายที่ต้องสะสาง เราทิ้งทุกอย่างไว้ที่นั่น รวมถึงอนาคตของเราด้วย” คุณซาบาเลตากล่าว
วีซ่าของทั้งคู่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ คุณซาบาเลตาบอกว่า เขาไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร ให้ตรวจสอบข้อจำกัดในรัฐของคุณเกี่ยวกับการรวมกลุ่มกัน
การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080
รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ
เอสบีเอสมุ่งมั่นให้ข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อโควิด-19 แก่ชุมชนหลากหลายภาษาในออสเตรเลีย เรามีข่าวและข้อมูลเป็นภาษาต่างๆ 63 ภาษาที่เว็บไซต์
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
นิวเซาท์เวลส์ปลดล็อกเที่ยวนอกเมือง 1 มิ.ย.นี้
