ค่าไฟบางรัฐในออสฯ อาจพุ่งสูงถึง 30% ในอีกไม่กี่เดือน

หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานของออสเตรเลียคาดว่า ราคาสูงสุดของค่าไฟฟ้าในครัวเรือนจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในบางพื้นที่ หลังการแทรกแทรงราคาในตลาดของรัฐบาล

The Australian Energy Regulator on Wednesday released its draft default market offer decision for the 2023/24 financial year. Source: Getty / Aitor Diago

ประเด็นสำคัญ

• ชาวออสเตรเลียจะต้องอดทนกับการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานครั้งใหญ่
• รัฐบาลบอกว่ากำลังช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งนี้จะส่งผลกระทบกับหลายครอบครัว
• รัฐวิกตอเรีย ซึ่งดำเนินกลไกจำกัดราคาพลังงานแยกต่างหาก อาพบกับการเพิ่มขึ้นของราคาสูงที่สุดตามสัดส่วนร้อยละ

ครัวเรือนในออสเตรเลียจะพบกับราคาค่าไฟที่เพิ่มสูงอย่างเฉียบพลันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ราคาไฟฟ้าในบางรัฐและมณฑลอาจพุ่งสูงถึงร้อยละ 30

แต่การเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้านั้น จะไม่สูงเท่ากับช่วงที่คาดการณ์ไว้ก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาจำกัดราคาพลังงานถ่านหินและราคาก๊าซหูงต้ม เพื่อควบคุมราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

หน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงานของออสเตรเลีย (AER) ได้เผยแพร่ร่างการตัดสินใจกำหนดราคาเริ่มต้นที่ผู้ค้าปลีกเรียกเก็บได้สูงสุดบนพื้นฐานตามข้อตกลง (Default Market Offer หรือ DMO) สำหรับปีงบประมาณ 2023/24 ซึ่งคาดการณ์ราคาไฟฟ้าว่าจะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 19.5 – 23.7 โดยขึ้นอยู่กับรัฐและมณฑล รวมถึงผู้ให้บริการพลังงาน

ทั้งนี้ ราคา DMO คือราคาพลังงานสูงสุดที่ผู้จำหน่ายพลังงานค้าปลีกสามารถเรียกเก็บจากลูกค้ารายบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐเซาท์ออสเตรเลีย และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์ได้ ขณะที่ลูกค้าส่วนมากอยู่ในอัตราของราคาพลังงานระดับต่ำกว่าและได้รับส่วนลด แต่ราคา DMO ก็ยังทำหน้าที่เป็นเกณฑ์มาตรฐานสำหรับราคาในวงกว้าง

AER ระบุว่า ราคา DMO สำหรับลูกค้าครัวเรือนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 20.9 – 23.7 ขณะที่ราคาในพื้นที่ตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนส์แลนด์จะเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 และในรัฐเซาท์ออสเตรเลียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 22

ขณะที่มีการประมาณว่าธุรกิจขนาดเล็กอาจพบกับราคาที่เพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 14.7 – 25.4 ขึ้นอยู่กับภูมิภาคและผู้ให้บริการ โดยการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายจะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

หากไม่มีการแทรกแทรงราคาในตลาดจากรัฐบาล หน่วยงานกำกับดูแลราคาพลังงานระบุว่า ราคาสำหรับลูกค้ารายครัวเรือนอาจเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 ในบางพื้นที่

ส่วนที่รัฐวิกตอเรีย ซึ่งดำเนินการจำกัดราคาพลังงานไฟฟ้าซึ่งแยกต่างหาก ก็ได้เผยแพร่ร่างราคา DMO ในวันนี้ พร้อมการเสนอให้ขึ้นราคาในบิลรายปีสำหรับลูกค้าครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็กมากกว่าร้อยละ 30 ตั้งแต่เริ่มต้นเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ มีลูกค้าพลังงานไฟฟ้าทั่วรัฐวิกตอเรียที่อยู่บนราคา DMO มากกว่า 450,000 ราย

ในพื้นที่ส่วนภูมิภาครัฐควีนส์แลนด์ ราคาที่จะเพิ่มขึ้นในร่าง DMO คือร้อยละ 28.9 สำหรับลูกค้าครัวเรือน และร้อยละ 26.1 สำหรับลูกค้าธุรกิจขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเฝ้าระวังการแข่งขันทางการค้าในรัฐควีนส์แลนด์คาดว่า ตัวเลขดังกล่าวจะมีการเปลี่ยนแปลงในการตัดสินใจชั้นสุดท้าย

คริส โบเวน รัฐมนตรีพลังงานออสเตรเลีย กล่าวว่า รัฐบาลได้ปกป้องชาวออสเตรเลียจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่คาดว่าจะสูงขึ้น แต่การเพิ่มขึ้นนี้จะยังคงเป็นความท้าทายสำหรับบรรดาครอบครัวที่เผชิฐหน้ากับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น

“รัฐบาลได้เผชิญหน้ากับการเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคา DMO และได้ดำเนินการเพื่อควบคุมราคาก๊าซหูงต้มและถ่านหิน และปกป้องครอบครัวและธุรกิจของชาวออสเตรเลียจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุดจากการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานเหล่านี้” คุณโบเวน กล่าว

คริส โบเวน รมต.พลังงาน ยอมรับว่าราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะเป็นเรื่องยากเย็นสำหรับชาวออสเตรเลีย Source: AAP

คุณโบเวน กล่าวว่า แผนระยะสั้นของรัฐบาลสำหรับการเยียวยาราคาพลังงานนั้น ได้แก่ส่วนลดสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กขณะที่ในระยะยาวนั้น คือการผลักดันให้มีพลังงานหมุนเวียนในระบบมากขึ้น

แคลร์ ซาวาจ (Clare Savage) หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลพลังงานแห่งออสเตรเลีย (AER) กล่าวว่า มีความผันผวนในตลาดพลังงานไฟฟ้าค้าส่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากราคาถ่านหินและก๊าซหูงต้มที่เพิ่มสูงขึ้น และการหยุดชะงักของโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน

“เรารู้ว่า (การขึ้นราคา) ครั้งนี้ เป็นข่าวที่สร้างความหนักใจสำหรับลูกค้าที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันของค่าครองชีพที่สูงขึ้น ... 20 – 22% ก็เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ก็ต่ำกว่าหากว่ามันเป็นอย่างอื่นมาก” คุณซาวาจ กล่าวกับวิทยุเอบีซี

AER ระบุว่า ร้อยละ 40 ของราคา DMO อยู่บนพื้นฐานของต้นทุนจากการกำเนิดไฟฟ้า และสิ่งนี้เป็นแรงขับดันมากที่สุดทีทำให้ราคาพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นในปีงบประมาณใหม่ที่กำลังจะถึงนี้

คุณซาวาจ กล่าวว่า AER จำเป็นต้องรักษาสมดุลของความต้องการที่จะปกป้องผู้บริโภคจากราคาที่สูงอย่างไม่เป็นธรรม กับความต้องการเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ค้าปลีกสามารถกู้คืนต้นทุน และให้สภาพการแข่งขันในตลาดได้ พร้อมกล่าวอีกว่า ข้อเสนอที่ลดราคานั้นมักจะขึ้นราคาตามข้อเสนอเริ่มต้น แต่ลูกค้าก็ควรที่จะหาผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ ที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา

---

คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai