ออสฯ เลิกกักตัวโควิด ยุติเงินช่วยลางานกลาง ต.ค.นี้

ที่ประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติมีมติเลิกกักตัวหากป่วยโควิด พร้อมเลิกโครงการเงินช่วยเหลือเมื่อต้องลางานหากติดเชื้อ ท่ามกลางความกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ

Queensland’s Premier Annastacia Palaszczuk, New South Wales’s Premier Dominic Perrottet and Prime Minister Anthony Albanese at a press conference after a National Cabinet meeting at Parliament House in Canberra, Friday, September 30, 2022.

Prime Minister Anthony Albanese (right) has defended the decision to end pandemic leave payments. Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE

ประเด็นสำคัญในบทความ
  • ที่ประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National Cabinet) มีมติยกเลิกมาตรการบังคับกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียแล้ว
  • มาตรการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.นี้ และเป็นผลให้โครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) เป็นอันสิ้นสุดลงในวันเดียวกัน
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพบางส่วนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้ ด้านนายกฯ ชี้การตัดสินใจเป็นไปในความเหมาะสม
30 ก.ย. แอนโทนี อัลบานิซี นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะผู้นำรัฐและมณฑลจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National cabinet) ที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา

ที่ประชุมมีมติประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับเป็นเวลา 5 วันสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม จะยังคงมีการใช้มาตรการกักตัวภาคบังคับต่อไปสำหรับลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง เช่น ในโรงพยาบาล และในสถานดูแลผู้สูงอายุ

โดยการตัดสินใจยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับดังกล่าว ยังหมายถึงการยุติโครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) สำหรับคนทำงานที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ต.ค.นี้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ โครงการเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะยังคงเหลือไว้ให้สำหรับคนทำงานในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยง โดยอัตราส่วนสนับสนุนงบประมาณในการจ่ายเงินช่วยเหลือดังกล่าวระหว่างรัฐและมณฑลต่าง ๆ และรัฐบาลเครือจักรภพจะอยู่ที่ 50:50

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผล และได้มุ่งเป้าไปยังกลุ่มเปราะบางมากที่สุด
เราต้องการนโยบายที่ส่งเสริมความยืดหยุ่น การสร้างศักยภาพ และลดการพึ่งพาการแทรกแทรงโดยรัฐบาล
นายกฯ อัลบานิซี กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในกรุงแคนเบอร์รา
"มันเป็นการตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์โดยคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติในวันนี้ และได้รับการสนับสนุนจากมุขมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐบาลมณฑลทั้งหมด"

ศาสตราจารย์ พอล เคลลี (Paul Kelly) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลีย กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 จะอยู่ในระดับต่ำ และมาตรการกักตัวจะถูกยกเลิกไป แต่การแพร่ระบาดใหญ่ยังไม่จบลง
Chief Medical Officer, Professor Paul Kelly
ศาสตราจารย์พอล เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลีย Source: AAP
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์เคลลี กล่าวอีกว่า ระยะของการตอบสนองฉุกเฉินต่อไวรัสโควิด-19 นั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว

"เราจะได้เห็นจุดสูงสุดของไวรัสนี้แทบจะแน่นอน เช่นเดียวกับที่เราได้เห็นเมื่อช่วงต้นปีนี้" ศาสตราจารย์เคลลี กล่าว

"มันถึงเวลาแล้วที่จะพิจารณาว่ามีอะไรที่เราทำได้เพื่อปกป้องผู้ที่มีความเปราะบางมากที่สุด และนั่นคือเป้าหมายหลักที่มุ่งมั่นของเรา"

ศาสตราจารย์เคลลี กล่าวว่า การยกเลิกมาตรการกักตัวนั้นเป็นการกระทำที่เป็นไปอย่างมีเหตุผล
ในมุมมองของผม มันถึงเวลาที่เราจะก้าวออกจากแนวคิดข้อยกเว้นจากโควิด และคิดว่าควรจะทำอะไรเพื่อปกป้องผู้คนจากโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจใด ๆ ก็ตาม
ศาสตราจารย์เคลลี กล่าว
"เรามองที่การกักตัวอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องดูมาตรการและการป้องกันที่เรามีด้วย เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมองทางเลือกอื่นไว้ หากสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปในอนาคต"

นายกชี้ "เหมาะสม" ที่จะยกเลิกเงินช่วยลางานจากโควิด

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปกป้องการตัดสินใจที่จะยุติโครงการเงินช่วยลางานจากการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic leave payment) โดยระบุว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำอีกว่ามุขมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐบาลต่างสนับสนุนการตัดสินใจครั้งนี้
มันไม่ยั่งยืนสำหรับรัฐบาลในการจ่ายค่าแรงให้ประชาชนอยู่ตลอดไป
นายกฯ อัลบานิซี กล่าว
"มีการคาดหวังไว้เสมอว่า มาตรการซึ่งได้มีการประกาศใช้เหล่านี้เป็นมาตรการฉุกเฉิน"

"มีไข้หวัดใหญ่อยู่ และปัญหาสุขภาพสุขภาพต่าง ๆ ก็มีอยู่มานานแล้ว และรัฐบาลก็ไม่ได้ก้าวเข้ามาเพื่อจ่ายค่าแรงให้กับผู้คนเมื่อพวกเขามีปัญหาสุขภาพเสมอไปตั้งแต่แรก"
(Back row) ACT Chief Minister Andrew Barr, South Australia's Premier Peter Malinauskas, West Australia’s Premier Mark McGowan, Tasmania's Premier Jeremy Rockliff and Northern Territory’s Chief Minister Natasha Fyles (front row) Queensland’s Premier Annastacia Palaszczuk, New South Wales’s Premier Dominic Perrottet, Prime Minister Anthony Albanese, Chief Medical Officer Paul Kelly and Victoria’s Premier Daniel Andrews at a press conference after a National Cabinet meeting at Parliament House in Canberra, 30 September 2022.
30 ก.ย. นายกรัฐมนตรี พร้อมผู้นำรัฐและมณฑลต่างๆ เข้าร่วมการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ (National Cabinet) ที่อาคารรัฐสภาในกรุงแคนเบอร์รา Source: AAP / MICK TSIKAS/AAPIMAGE
ศาสตราจารย์เคลลี กล่าวว่า โควิด-19 จะยังคงอยู่ไปอีกหลายปี และการตอบสองใด ๆ จะเป็นไปอย่างเป็นสัดส่วน

ผู้นำของบางรัฐและมณฑล ซึ่งรวมถึง โดมินิก เพอร์โรต์เทต์ มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้เรียกร้องตั้งแต่ก่อนที่จะมีการประชุมคณะผู้นำรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อให้มีการยุติมาตรการกักตัวภาคบังคับ โดยมุขมนตรีเพอร์โรต์เทต์ กล่าวว่า ชาวออสเตรเลียจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขาเอง

แพทย์ห่วงกรณียกเลิกกักตัว

สตีฟ รอบสัน (Steve Robson) ประธานแพทยสภาแห่งออสเตรเลีย (AMA) ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำรัฐและมณฑลที่สนับสนุนการยกเลิกมาตรการกักตัว

"ผู้ที่ผลักดันให้ตัดลดเวลาการกักตัวนั้นไม่ได้มีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ และกำลังทำให้สาธารณชนตกอยู่ในความเสี่ยง พวกเขาจะต้องเข้าใจสิ่งนั้น"
เรากำลังพบเห็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิดอีกครั้ง และช่วงเวลาวันหยุดที่ผู้คนจะเดินทางไปรอบโลกกำลังจะมาถึง
คุณรอบสันกล่าวกับสำนักข่าวเอบีซี
"มันเป็นช่วงเวลาของความเสี่ยงอย่างมีนัยยะ และเรากำลังเรียกร้องให้มีความระมัดระวัง เพราะเราจำเป็นต้องปกป้องระบบสุขภาพ"

ศาสตราจารย์เบรตต์ ซัตทัน (Prof Brett Sutton) ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย ได้โพสต์ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ว่า "การเดินละเมอเข้าหาโควิดไม่ใช่กลยุทธ์ที่ผมแนะนำ ยังมีอีกมากมายที่ยังไม่มีความแน่นอน"
Victoria’s Chief Health Officer Professor Brett Sutton standing at podium with a microphone.
ศาสตราจารย์ เบรตต์ ซัตทัน ประธานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย Source: AAP / Joel Carrett
เอเดรียน เอสเตอร์แมน (Adrian Esterman) ศาสตราจารย์ระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ได้อธิบายถึงความเคลื่อนไหวเพื่อยกเลิกกการกักตัวของผู้ป่วยโควิด-19 ว่า "เป็นความบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุด"

"พวกเขาไม่เห็นเหตุการณ์ในอังกฤษหรืออย่างไร NHS กำลังบากบั่นอย่างไม่มีความหวัง ยอดผู้ติดเชื้อในอังกฤษกำลังเริ่มที่จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง" ศาสตราจารย์เอสเตอร์แมน ระบุในทวิตเตอร์

การเข้ารักษาในโรงพยาบาลในประเทศอังกฤษได้เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอังกฤษอาจกำลังจะพบกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 4

อย่างไรก็ตาม โรเบิร์ต คัมมิง (Robert Cumming) ศาสตราจารย์กิตติคุณจากภาควิชาระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ได้โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า ถึงเวลาที่จะต้องยกเลิกมาตรการกักตัว

"จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องและเรากำลังเข้าสู่ฤดูร้อน หากเราไม่ยกเลิกมาตรการกักตัวภาคบังคับในตอนนี้ แล้วเราจะทำเมื่อไหร่กัน" ศาสตราจารย์คัมมิง กล่าว

"ผู้คนยังควรได้รับคำแนะนำให้อยู่บ้านหากมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเราจำเป็นต้องทำให้สิ่งนี้ง่ายสำหรับที่ทุกคนจะทำ"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 

Share
Published 30 September 2022 4:53pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP, SBS


Share this with family and friends