สภาภูมิอากาศแห่งออสเตรเลีย (Climate Council of Australia) ระบุว่า ภายในเวลาเพียง 90 วันที่ผ่านมา หลายพื้นที่ทั่วออสเตรเลียได้ทำลายสถิติทางสภาพอากาศไปแล้วกว่า 206 ครั้ง ทั้งอุณหภูมิในฤดูร้อนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ปริมาณฝนที่น้อยกว่าที่เคยบันทึกมา และอุณหภูมิในรัฐและเขตแดนต่าง ๆ ที่สูงกว่าที่เคยมีการเก็บข้อมูล
แต่สิ่งที่แย่กว่านั้นกำลังจะมาถึง เมื่อมีรายงานที่ระบุว่าหัวเมืองใหญ่ ๆ ในออสเตรเลียอย่างนครซิดนีย์และเมลเบิร์นนั้นอาจมีอุณหภูมิในหน้าร้อนสูงสุดถึง 50 องศาเซลเซียส ภายในปี 2020
ในขณะเดียวกัน เมืองต่าง ๆ ในภูมิภาคตอนกลาง และพื้นที่ส่วนภูมิภาคตะวันตกตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์นั้นกำลังจะเกิดคลื่นความร้อน สภาพแห้งแล้ง และไฟป่าในหลายจุด
รายงานดังกล่าวได้เตือนว่า สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ของชาวออสเตรเลียนั้นกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง โดยคลื่นความร้อนจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่ทำให้เกิดอาการอ่อนแรง และภาวะหัวใจล้มเหลว โดยอิทธิพลจากคลื่นความร้อยในปี 2009 ที่ผ่านมานั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500 คน ทั่วพื้นที่นครเมลเบิร์นและแอดิเลด
Firefighters battle to contain a fire at Currowan. Source: NSW RFS
พญ.เคท ชาล์สเวิร์ธ (Dr Kate Charlesworth) แพทย์ด้านสาธารณสุข กล่าวว่าเราต้องตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในด้านสุขภาพที่เราจะต้องเผชิญจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
“ในขณะที่เราพูดถึงการควบคุมการสูบบุหรี่และแร่ใยหิน เรามีหน้าที่ในการกำกับดูแลที่จะต้องพูดถึงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศด้วย” นางชาล์สเวิร์ธกล่าว
“ควันจากไฟป่ามีสารก่อมะเร็ง อนุภาคขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และอีกหลายอย่างเจือปน และมันเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างมาก ซึ่งเทียบเท่ากับการสูบบุหรี่วันละ 40 มวน”
นายโรเบิร์ต ลี (Robert Lee) อาศัยอยู่ที่ฟาร์มในพื้นที่เมืองออเรนจ์ (Orange) ทางตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์ เขากล่าวว่า เขามีความกังวลต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลามากกว่า 15 ปีที่ผ่านมา
“เราไม่เคยเห็นความแห้งแล้งที่แย่ถึงขนาดนี้ เมื่อปี 2018 เราขายวัวที่เรามีถึง 1 ใน 3 และเราก็ขายออกไปอีก 1 ใน 3 ในปีนี้ หากเรามีลูกวัวเพิ่มอีก ก็คิดว่าคงจะขายไปจนหมดและเลือกเลี้ยงแกะเพียงอย่างเดียว” นายลีกล่าว
ทั้งนี้ นายลีได้เรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียรับรู้ถึงผลกระทบอันแท้จริงที่เกิดขึ้นกับเกษตรกร และดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้มีการก่อตั้งอุตสาหกรรมใหม่มาทดแทน
Robert Lee lives on a farm near Orange and is calling for urgent climate action. Source: Supplied: Climate Council of Australia
“ออสเตรเลียจะต้องมีความจริงจังในการดำเนินการกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง พลังงานทดแทนคือการลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างอีกหลายอุตสาหกรรมในพื้นที่ส่วนภูมิภาค อย่างในพื้นที่ตะวันตกตอนกลางของรัฐนิวเซาท์เวลส์” นายลีกล่าว
นางอแมนดา แมกเคนซี (Amanda McKenzie) ประธานกรรมการบริหารของสภาภูมิอากาศแห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า เหตุการณ์หายนะทางสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ
“เราเห็นอุณหภูมิที่สูงเป็นประวัติการณ์ เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในฤดูหนาว และสภาพความแห้งแล้งที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน” นางแมกเคนซีกล่าว
“การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศนั้นส่งอิทธิพลต่อเหตุการณ์เหล่านี้ นี่เพิ่งจะเริ่มต้นฤดูร้อน นั่นหมายความว่าช่วงเวลาอันตรายที่ใหญ่ที่สุดนั้นกำลังรอเราอยู่”
ลักษณะภูมิอากาศที่ไม่ปกตินี้ส่งผลกระทบต่อชาวออสเตรเลียทั้งในพื้นที่ส่วนภูมิภาค และผู้อาศัยในอยู่ในเขตเมือง
สถานการณ์ความแห้งแล้งที่ยาวนานเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ผลผลิตในปีงบประมาณ 2019-20 นั้น ลดลงมาถึงร้อยละ20
ทั้งนี้ รายงานจากสภาภูมิอากาศแห่งออสเตรเลียยังได้ขอให้รัฐบาลออสเตรเลียดำเนินการอย่างจริงจังเกี่ยวกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และร่วมมือกับความพยายามในระดับโลกในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก
นายลีกล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องดำเนินการเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ได้นิ่งเฉยมากว่าหลายปี โดยการสร้างความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในเชิงนโยบาย
Some farmers have received less rain under La Niña than they would in an El Niño season. Source: Climate Council of Australia
“ผมรู้สึกผิดหวังเมื่อคิดถึงเวลาที่เราได้สูญเสียไป ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อทำให้แน่ใจว่า ชาวออสเตรเลียนั้นมีสภาพภูมิอากาศที่ปลอดภัย และระบบเศรษฐกิจที่ทันสมัย ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต” นายลีกล่าว
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียได้พยากรณ์ว่า หลายพื้นที่ของออสเตรเลียจะมีอุณหภูมิสูงสุดที่เกิดกว่าค่าเฉลี่ยในฤดูร้อนนี้ โดยสถานการณ์ความแห้งแล้งจะยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลียนั้นจะเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้งกว่าค่าเฉลี่ย
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
คนไทยนำอาหารไทยสู้ไฟป่า
