เลือกตั้งออสฯ 2019: พรรคหลักมีจุดยืนอย่างไรต่อความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

NEWS: ความเปลี่ยนแปลงของภูมิกาศเป็นสิ่งแรกในใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสหพันธรัฐในครั้งนี้ จึงทำให้หลายๆ พรรคต้องเริ่มดำเนินการ มาดูกันถึงนโยบายของพรรคร่วม พรรคแรงงาน และพรรคกรีนส์ เรื่องการลดการปลดปล่อยมลภาวะ ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า และราคาพลังงาน

You can read the full version of this story in English on SBS news .
Graphic
Source: SBS News
หลังจากที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาเป็นเวลานานถึงการเพิกเฉยต่อความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พรรคร่วมก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยการประกาศครั้งใหญ่จำนวนสองครั้ง

ครั้งแรกเป็นการอัดฉีดเงินจำนวน $2 พันล้านดอลลาร์สู่แผนการตั้งแต่สมัยนายโทนี แอบบ็อตต์ เพื่อใช้จ่ายในโครงการต่างๆ เพื่อลดปริมาณคาร์บอน โดยที่ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในภาคส่วนการเกษตรและการใช้งานผืนดิน

ในสัปดาห์เดียวกัน นายสกอตต์ มอร์ริสันก็อนุมัติโครงการผลิตพลังงานจากหิมะลายหรือสโนวีไฮโดรระยะที่สอง (Snowy Hydro 2.0) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และเงินกองทุนจำนวนไม่เกิน $1.4 พันล้านดอลลาร์สำหรับส่วนเพิ่มขยายดังกล่าว ที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตพลังงานได้มากขึ้นอีก 2,000 เมกะวัตต์ และเก็บสะสมพลังงานได้เป็นระยะเวลา 175 ชั่วโมง
Australia's Prime Minister Scott Morrison has given  the thumbs up to a further $1.3 billion expansion of Snowy 2.0.
Australia's Prime Minister Scott Morrison has given the thumbs up to a further $1.3 billion expansion of Snowy 2.0. Source: AAP
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงมั่นในว่าพรรคร่วมจะเข้าเป้าการลดการปลดปล่อยมลภาวะลง 26-28 เปอร์เซ็นต์ “ได้อย่างง่ายดาย” ถึงแม้ว่าตัวเลขต่างๆ ของทางรัฐบาลเองกลับไม่บ่งชี้เช่นนั้นก็ตาม

ด้านพรรคแรงงานนั้นมีเป้าของการปลดปล่อยมลภาวะที่ทะเยอทะยานมากกว่า โดยเฉพาะจากการที่ทางพรรคนั้นจะไม่ใช้เครดิตตกค้างจากข้อตกลงเกียวโตที่กำลังจะไม่มีผลอีกต่อไป

พรรคแรงงานได้สัญญาที่จะอัดฉีดเงินจำนวน $15 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทเงินทุนเพื่อพลังงานสะอาด (Clean Energy Finance Corporation) เพื่อใช้จ่ายต่อโครงการพลังงานทดแทนต่างๆ และลดเพดานมลภาวะของผู้ปลดปล่อยมลภาวะรายใหญ่ที่สุด 250 รายในออสเตรเลียลง

ภายใต้นโยบายดังกล่าว ธุรกิจเหล่านี้จะสามารถซื้อและขายเครดิตคาร์บอนกับต่างประเทศได้

แต่พรรคแรงงานก็ถูกกดดันเนื่องจากไม่สามารถระบุเป็นจำนวนเงินออกมาได้ว่าแผนการต่างๆ เพื่อลดการปลดปล่อยมลภาวะของพรรคนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร

ส่วนด้านพรรคกรีนส์นั้นต่อต่านการใช้เครดิตในระดับนานาชาติ โดยกล่าวว่าแผนการต่างๆ ของทั้งพรรคแรงงานและพรรคร่วมนั้นยังก้าวไปไม่ไกลเพียงพอ

พรรคขนาดเล็กดังกล่าวอาจมีอิทธิพลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวุฒิสภา และกำลังผลักดันให้ยุติการส่งออกถ่านหินง และให้ปิดโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินลงภายในปี ค.ศ. 2030
Graphic
Source: SBS News
ถึงแม้ว่าเมื่อดูตามนโยบายแล้วพรรคหลักๆ ก็มีวิธีการที่ไม่แตกต่างกันมากนักในเรื่องของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า รัฐบาลก็เป็นฝ่ายชูเรื่องดังกล่าว

นายสกอตต์ มอร์ริสันประกาศว่า แผนการของพรรคแรงงานเพื่อเพิ่มยอดจำหน่ายยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของรถใหม่ภายในปี 2030 นั้น เป็น “สงครามต่อวันหยุดสุดสัปดาห์” แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเองก็ได้เคยกล่าวในการประชุมเพื่อคาดคะเน ว่าเป้าของรัฐเองนั้นก็อยู่ที่ 25-50 เปอร์เซ้นต์

เมื่อการอภิปรายในเรื่องดังกล่าวหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ รัฐมนตรีของฝ่ายรัฐบาล นางมีคาเอเลีย แคช ได้ให้คำมั่นที่จะยืนหยัดอยู่กับฝ่ายช่างฝีมือต่างๆ และ “ปกป้องรถกระบะของพวกเขา”
Leader of the Opposition Bill Shorten charges an electric car after launching Labor's Climate Change Action Plan.
Opposition Leader Bill Shorten charges an electric car in Canberra. Source: AAP
ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งก็คือจุดยืนของพรรคต่างๆ ต่อมาตรฐานการปลดปล่อยมลภาวะของยานพาหนะ โดยพรรคแรงงานได้วางแผนที่จะเริ่มนำมาตรฐานคาร์บอนไดออกไซด์ 105 กรัม ต่อกิโลเมตรสำหรับยานพาหนะเบาเข้ามาใช้

ทางพรรคร่วมกล่าวว่า หากทำเช่นนั้นก็จะเป็นการผลักให้ราคาของรถใหม่นั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง $5,000 ดอลลาร์ได้ และเรียกมันว่าเป็นภาษีรถยนต์

การบรรลุเป้าเรื่องยานพาหนะพลังงานไฟฟ้านั้น คาดว่าจะใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวน $1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการสูญเสียรายได้จากภาษีน้ำมัน

พรรคแรงงานต้องการเริ่มใช้มาตราฐานการปลดปล่อยมลภาวะสำหรับยานพาหนะ รวมทั้งการเรียกเก็บภาษีรถยนต์หรู ซึ่งจะใช้เพื่อชดเชยการยกเลิกภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า
Graphic
Source: SBS News
การอภิปรายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศนั้น โดยส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลที่ว่าราคาพลังงานนั้นจะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคแนชันนอลได้เพิ่มแรงกดดันต่อพรรคลิเบอรัลซึ่งเป็นพรรคพันธมิตร ให้ยอมที่จะเป็นผู้ประกันเงินสำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินแห่งใหม่ที่ย่านใจกลางรัฐควีนส์แลนด์

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันก็ยังได้ให้คำมั่นต่อการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะกลับไปเปิดใช้โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินที่เมืองคอลลินส์เวลอีกครั้ง เมื่อเขาประกาศรายชื่อโครงการกำเนิดพลังงานโครงการใหม่ที่ติดโผจำนวน 12 โครงการ ซึ่งได้ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดกระแสไฟฟ้า
Australian Greens MP Adam Bandt speaks as he holds up a solar panel during House of Representatives Question Time at Parliament House in Canberra, Monday, Feb. 13, 2017. (AAP Image/Lukas Coch) NO ARCHIVING
Greens MP Adam Bandt brought a solar panel into the Parliament. Source: AAP
รัฐบาลโต้แย้งว่า นโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของพรรคแรงงานที่จะไม่ใช้จ่ายเงินของผู้เสียภาษีเพื่อสนับสนุนถ่านหินนั้น จะผลักดันให้ราคาพลังงานเพิ่มสูงขึ้น

รัฐบาลยังจะมอบส่วนลดให้กับใบเรียกเก็บเงินค่าพลังงานแบบให้เพียงครั้งเดียวแก่ผู้รับเงินสวัสดิการ โดยผู้ที่จะได้รับจ่ายเงินนี้จะเป็นผู้ที่กำลังรับเงินนิวสตาร์ท (Newstart) โดยได้มีการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวหลังการประกาศงบประมาณแผ่นดินไปแล้ว เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุนจากพรรคแรงงาน

หากพรรคแรงงานชนะการเลือกตั้ง ครัวเรือนซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า $180,000 จะได้รับเงินจ่ายคืนไม่เกิน $2,000 สำหรับการติดตั้งระบบแบตเตอร์รี

ส่วนพรรคกรีนส์ก็ได้เสนอให้มีการก่อตั้งผู้ค้าปลีกพลังงานของรัฐบาล เพื่อจำหน่ายพลังงานในราคาที่ถูกลง
ติดตามฟังรายการ เอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี เวลา 22.00 น.

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 18 April 2019 9:24am
Updated 18 April 2019 9:30am
By SBS News
Presented by Tanu Attajarusit
Source: AAP, SBS News


Share this with family and friends